ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดลดลงเหตุวิตกงบประมาณสหรัฐ ขณะข้อมูลศก.สดใสช่วยสกัดช่วงลบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 1, 2013 23:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการตัดลดงบประมาณรายจ่ายโดยอัตโนมัติของรัฐบาลกลางสหรัฐซึ่งจะมีผลในวันนี้ จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตและความเชื่อมั่นผู้บริโภค ช่วยสกัดช่วงขาลง

ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 10 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 14,044 จุด จากที่ร่วงกว่า 100 จุดภายหลังตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนี S&P 500 ลบ 2 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 1,513 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 11 จุด หรือ 0.3% แตะ 3,149 จุด ณ เวลาประมาณ 22.30 น.ตามเวลาประเทศไทย

บรรยากาศการซื้อขายถูกปกคลุมด้วยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับขอบเขตความเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นจากมาตรการปรับลดงบรายจ่ายโดยอัตโนมัติของรัฐบาลกลางสหรัฐที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้

ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวลงในช่วงท้ายของการซื้อขายวานนี้ ภายหลังแผนการของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเพื่อแก้ไขปัญหางบประมาณได้ถูกปฎิเสธจากวุฒิสภาสหรัฐ

ทั้งสองพรรคประสบความล้มเหลวในการหาทางออกร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดลดงบประมาณแบบอัตโนมัติกว่า 85 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อตัวแทนจากพรรคเดโมเครตเรียกร้องให้มีการขึ้นภาษีกับคนรวย ขณะที่ทางพรรครีพับลีกันคัดค้านการเก็บภาษีเพิ่ม ส่งผลให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ต้องหามาตรการใหม่จัดการกับแผนตัดลดงบประมาณดังกล่าว โดยปธน.โอบามาจะเข้าพบกับสมาชิกระดับสูงของสภาคองเกรสในวันนี้เพื่อรือถึงทางออกอีกครั้ง

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ยังถูกกดดันจากข้อมูลภาคการผลิตของจีนและยูโรโซนที่ชะลอตัวลง อีกทั้งอัตราว่างงานยูโรโซนที่ไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ดี การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของสหรัฐในวันนี้ได้ช่วยพยุงดัชนีให้ขยับขึ้นจากระดับต่ำ โดยสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.พ. จากระดับ 53.1 ในเดือนม.ค. นับเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัว

ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.ดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 52.5 และดีกว่าข้อมูลของประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่อื่นๆ

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนก.พ.โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน เพิ่มขึ้นแตะ 77.6 จากระดับ 73.8 ในเดือนม.ค. ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะอยู่ที่ 76.3 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงต้นเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ