ทริสฯ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ LH วงเงินไม่เกิน 3.5 พันลบ.ที่ “A/Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 4, 2013 17:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3,500 ล้านบาทของ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ที่ระดับ “A" ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A"ด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable" หรือ “คงที่"

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ในครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้และใช้เป็นเงินทุนสำหรับขยายกิจการ อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แบรนด์ที่แข็งแกร่ง ตลอดจนความสามารถของคณะผู้บริหาร การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความยืดหยุ่นทางการเงินจากเงินลงทุนขนาดใหญ่ในหลักทรัพย์สภาพคล่องสูง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง แรงกดดันจากการแข่งขัน รวมทั้งภาระหนี้ที่สูงของบริษัท

ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไว้ได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่สูงเกินกว่า 50% เป็นเวลานานต่อเนื่อง

LH ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำในกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยของไทยก่อตั้งในปี 2526 โดยตระกูลอัศวโภคิน ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2556 ตระกูลอัศวโภคินมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท 31% รองลงมาคือ Government of Singapore Investment Corporation (GIC) ในสัดส่วน 16% สินค้าหลักของบริษัทคือบ้านเดี่ยวซึ่งสร้างรายได้ในสัดส่วนประมาณ 3 ใน 4 ของรายได้รวม แบรนด์ที่แข็งแกร่งของบริษัทสะท้อนถึงภาพลักษณ์ที่โดดเด่นในคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขาย บริษัทประสบความสำเร็จในการขายบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์และราคาที่หลากหลาย และเสนอสินค้าที่เหมาะสมกับกำลังซื้อและความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละทำเล ความแข็งแกร่งทางการตลาดของบริษัทสะท้อนจากยอดขายที่อยู่ในระดับ 1.6-2.5 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ณ สิ้นปี 2555 บริษัทมียอดขายโครงการคอนโดมิเนียมที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) มูลค่า 5.6 พันล้านบาท โดยที่บริษัทจะรับรู้ยอดขายดังกล่าวเป็นรายได้ประมาณ 2.4 พันล้านในปี 2556 และ 3.2 ล้านบาทในปี 2557 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ตามประมาณการพื้นฐานอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า บริษัทมีอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย/รายได้) อยู่ที่ 21.9% ในปี 2555 ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรของบริษัทน่าจะอยู่ที่ประมาณ 18%-19% ในระยะปานกลาง ทั้งนี้ อัตราส่วนกำไรอาจปรับลดลงได้ในระยะสั้นจากค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขยายธุรกิจ

บริษัทมีภาระหนี้ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอันดับเครดิตในปัจจุบัน ทว่าความเสี่ยงดังกล่าวถูกลดทอนลงจากการที่บริษัทมีเงินลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดีซึ่งสามารถสร้างรายได้ และถือเงินลงทุนขนาดใหญ่ในหลักทรัพย์สภาพคล่องสูง อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ 46.2% ทั้งนี้ บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนให้ต่ำกว่า 1.5 เท่าตามข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้ โดย ณ สิ้นปี 2555 อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 0.97 เท่า ทริสเรทติ้งคาดว่าโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะได้รับแรงกดดันต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าจากแผนการขยายโครงการแนวสูงที่จะมีอย่างต่อเนื่องและนโยบายการจ่ายเงินปันผลในระดับสูง

ในปี 2555 บริษัทได้รับเงินสดประมาณ 1.1 พันล้านบาท (สุทธิจากเงินที่นำกลับไปลงทุนในกองทุน) จากการตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สภาพคล่องของบริษัทอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทได้รับแรงสนับสนุนจากเงินลงทุนในบริษัทอื่นที่มีมูลค่ายุติธรรมที่ 3.86 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2555


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ