ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 38.16 จุดหลังบัฟเฟตต์แนะลงทุนหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 5, 2013 06:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับนายวอร์เรนน์ บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ที่แสดงความคิดเห็นในด้านบวกต่อตลาดหุ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยลดแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของจีนและข่าวที่จีนใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 38.16 จุดหรือ 0.27% แตะที่ 14,127.82 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 7.00 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 1,525.20 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 12.29 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 3,182.03 จุด

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยในช่วงสุดสัปดาห์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือนก.พ.ชะลอตัวลงแตะ 54.5 เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ดัชนียังอ่อนแรงลงจากการที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ดิ่งลงกว่า 3% หลังจากที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการเพื่อดึงราคาอสังหาริมทรัพย์ให้อ่อนตัวลง ประกอบกับอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวลงของธุรกิจบริการของประเทศ

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนกำหนดให้ผู้ซื้อบ้านต้องวางเงินดาวน์สูงขึ้นพร้อมกำหนดอัตราดอกเบี้ยจำนองบ้านมือสองเพิ่มขึ้นในหลายเมือง หลังราคาได้ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้ภาษีการขายอย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการลดความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

ตลาดได้รับปัจจัยลบมากขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งเพื่อเริ่มบังคับใช้มาตรการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล วงเงินรวม 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการลงนามดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันประสบความล้มเหลวในการหาทางออกร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดลดงบประมาณแบบอัตโนมัติ โดยตัวแทนจากพรรคเดโมเครตเรียกร้องให้มีการขึ้นภาษีกับคนรวย ขณะที่ทางพรรครีพับลีกันคัดค้านการเก็บภาษีเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากที่นายบัฟเฟตต์กล่าวแสดงความคิดเห็นของสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อวานนี้ว่า ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับการลงทุนในด้านอื่นๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนควรจะเข้ามาช้อนซื้อ

หุ้นกูเกิลพุ่งขึ้น 1.90% ขณะที่หุ้นแอปเปิลร่วงลง 2.42%

หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ปรับตัวขึ้น 5.6% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 5.3% และห้นอลาสก้า แอร์กรุ๊ป พุ่งขึ้น 4.1%

ส่วนหุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ปรับตัวลง 1.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ