นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ GUNKUL กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตจากปีก่อน เนื่องจากคาดว่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างราว 1.6 พันล้านบาท และจากธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ 400 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจเดิมจะทำรายได้ราว 2 พันล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทฯ จะมีรายได้จากการขายหุ้นสามัญของบริษัท กันกุลเพาเวอร์เจน จำกัด(GPG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยให้กับบริษัท ชูบุ อิเล็คทริค เพาเวอร์เจน บีวี จำกัด
ในส่วนของกำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ 779.55 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯ จะรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้นบริษัทลูกที่มีมูลค่าราว 337 ล้านบาท และยังมีกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่จะรับรู้เข้ามาเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วนราว 10%
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือ(backlog)เพิ่มขึ้นเป็น 1.2 พันล้านบาท จากสิ้นปี 55 มีอยู่ 400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะรับรู้รายได้จาก backlog ในปีนี้ประมาณ 1.2 พันล้านบาท และมองว่า ณ สิ้นปี 56 จะมี backlog ประมาณ 1.6 พันล้านบาท จากงานก่อสร้างโครงการฐานรากของบริษัท กันกุลเพาเวอร์เจน จำกัด มูลค่า 600-700 ล้านบาท
นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทฯ ยังจะหางานใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ backlog สูงขึ้น และช่วยให้รายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทฯ มองแนวโน้มในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะมีงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีหนี้สินมากขึ้นก็อาจจะพิจารณาขายหุ้นบางส่วนเพื่อนำเงินไปลงทุนเพิ่ม ปัจจุบันสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E)อยู่ที่ 2.2 เท่า แต่หลังจากขายหุ้นบริษัทลูกออกไปจะทำให้ D/E ลดเหลือ 1.2 เท่า
ส่วนการลงทุนในพม่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนโครงการด้านสาธารณูปโภคไว้ 50 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 1-2 ปี คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/56 โดยน่าจะเข้าไปลงทุนได้ไม่ต่ำกว่า 1 โครงการ