สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A LB176A และ LB236A (รุ่นอายุ 2.2 ปี 4.3 ปี และ 10.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 18,689 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC16NA) มูลค่า 813 ล้านบาท
2. บริษัท เอ็มบีเค จำกัด (มหาชน) (MBK137A) มูลค่า 273 ล้านบาท
3. บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH133A) มูลค่า 201 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,287 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ขายสุทธิ 369 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 2,230ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ มูลค่า 3,955 ล้านบาท
Yield ค่อนข้างคงที่ในทุกช่วงอายุของตราสาร ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางเนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆโดยนักลงทุนยังคงจับตาผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินใหม่ๆ ออกมาหรือไม่ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิ เท่ากับ 3,955 ล้านบาท