ประกอบกับการผลิตรถยนต์เพื่อส่งมอบในโครงการรถคันแรกยังมีต่อเนื่องและคาดว่าส่งมอบได้หมดในช่วงกลางปีนี้หลังสิ้นสุดโครงการเมื่อสิ้นปีก่อน รวมทั้งยอดการผลิตรถแทรคเตอร์ที่ใช้ในภาคการเกษตรจากลูกค้าคูโบต้าที่ปีนี้จะเติบโตกว่า 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 40,000 ยูนิต และโรงหล่อเหล็ก (ICP2) คาดว่าสิ้นเดือนมี.ค.นี้จะเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 80-85% ได้จากปีก่อนเฉลี่ยที่ 60-65%
ส่วนของกำไรปี 56 น่าจะเติบโตทิศทางเดียวกับยอดขาย จากปีก่อนที่มีกำไร 816 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 18-20% จากปีก่อนเฉลี่ยที่ 17% เป็นการเพิ่มขึ้นตามยอดขาย ขณะที่ต้นทุนไม่ได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งโรงหล่อเหล็ก(ICP2)สามารถใช้กำลังการผลิตได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
"ยอดขายปีนี้ที่จะโตมากกว่า 10% จากเป้ายอดผลิตรถยนต์ปกติที่เพิ่มขึ้น การส่งออกรถยนต์และรถแทรคเตอร์"นายวีระยุทธ กล่าว
สำหรับแนวโน้มยอดขายไตรมาส 1/56 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างน้อย 10% เทียบไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย เติบโตตามอุตสาหกรรมยานยนต์ จากยอดจองรถคันแรกค้างส่งมอบจากปีก่อน และออเดอร์รถแทรกเตอร์ที่เพิ่มขึ้น
นายวีระยุทธ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ราว 500-700 ล้านบาทสำหรับสร้างโรงงานเพื่อผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ตัวใหม่ เป็นชิ้นส่วนรถเก๋งและรถกระบะ ที่นอกเหนือจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เพลาข้าง ขณะนี้มีออร์เดอร์แล้ว จากลูกค้าที่มียอดขายติดอันดับ 1 ในไทย ซึ่งจากเดิม Outsource จากภายนอก นอกจากนี้บริษัทเตรียมขยายกำลังการผลิตในส่วนของกลุ่มสปริงเหล็กกันโครง แหนบแผ่น (BSK) คาดว่า พ.ค.-มิ.ย.นี้น่าจะเริ่มการผลิตได้