"เป้ารายได้ที่ตั้งไว้จะให้ได้พันล้าน(บาท) ไม่ได้เกินความเป็นจริง จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ราว 775 ล้านบาท และเราก็โตต่อเนื่อง 17-18% ทุกปี แต่เราทำงานให้หนักเพิ่มอีกหน่อย" นายธานินทร์ กล่าว
อนึ่ง ผลประกอบการปี 55 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 93.52 ล้านบาท เติบโต 11.8% จากปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 27.69%
สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท่อประเภทต่างๆ โดยเฉพาะท่อร้อยสายไฟที่มีสัดส่วนรายได้ 60% ของรายได้รวม รวมถึงท่อระบายอากาศสำหรับงานระบบปรับอากาศจากเดิมที่ใช้การผลิตจากช่างฝีมือที่มีต้นทุนสูงขึ้นจากการปรับค่าแรง, ท่อประปาชนิด PPR ที่มีความปลอดภัยสูงกว่าท่อ PVC และท่อสำหรับงานก่อสร้าง
"โครงการก่อสร้างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้แทบทุกโครงการใช้ผลิตภัณฑ์ แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากผู้รับเหมามากขึ้น"นายธานินทร์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ ARROW เชื่อว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในปีนี้ยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนตามการลงทุนโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศ เช่น โครงการรถไฟฟ้า โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ โครงการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โครงการอาคารสู่ความเป็นเลิศของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ โครงการอาคาร 22 ชั้นของ ททบ.5 เป็นต้น
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าขยายสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศเพิ่มเป็น 15-20% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน12% โดยมีตลาดส่งออกหลักอยู่ที่สหรัฐฯ และกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งบริษัทจะขยายตลาดส่งออกเพิ่มไปในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 58
"ทุกวันนี้ดีลเลอร์ถามเราว่าจะเพิ่มการส่งออกให้ได้อีกหรือไม่"นายธานินทร์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ ARROW กล่าวว่า เนื่องจากแนวโน้มการแข่งขันทวีความรุนแรงมากขึ้น บริษัทฯ จึงได้ลงทุน 30 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งคาดจะเปิดทำการผลิตได้ราวไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้
"ผลิตภัณฑ์บางตัวเราใช้กำลังการผลิตไปแล้ว 90% เราพยายามรักษาความเชื่อมั่นเรื่องการมีสินค้าส่งให้ลูกค้าตามกำหนดเวลา และส่วนหนึ่งยังเสริมเรื่องการเตรียมวัตถุดิบที่ปัจจุบันจ้างซัพพลายเออร์ ซึ่งจะช่วยให้ลดการขาดทุนกำไรได้ด้วย"นายธานินทร์ กล่าว