PPSมีงานใหม่รอเซ็นกว่า100ลบ./บ.ลูกจับมือพันธมิตรยื่นงานสุวรรณภูมิเฟส 2

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 11, 2013 10:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธัช ธงภักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส(PPS) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทยังคงขยายงานบริหารโครงการรูปแบบต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนงานบริหารโครงการภาครัฐมากขึ้น จากเดิมที่งานส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นงานภาคเอกชน ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา PPS ได้เริ่มมีการรับงานภาครัฐตลอดจนงานบริหารโครงการใหม่แล้วหลายโครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท อาทิ โครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ศาลฎีกา ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสท์เกต บางใหญ่ ฯลฯ

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการยื่นเสนองานโครงการอีกหลายแห่ง และคาดว่าจะมีงานใหม่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้มีการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีความทันสมัยขึ้น เพื่อช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรองรับงานใหม่ในอนาคต อีกทั้งจะมีส่วนช่วยในการบริหารต้นทุนดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

“ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมืออยู่ 353 ล้านบาท ณ สิ้น ก.พ.ยังไม่รวมงานโครงการใหม่ที่รอเซ็นสัญญาอีกกว่า 100 ล้านบาท คาดว่าช่วงที่เหลือของปีนี้ธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาจะมีการขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง จากการลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชนในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจและทำให้ PPS มีโอกาสในการเข้ารับงานโครงการใหม่เข้ามาต่อเนื่องโดยจะเน้นที่งานภาครัฐและงานโรงงานอุตสาหกรรม คาดว่าในปีนี้รายได้รวมของบริษัทจะมีการเติบโต 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้"นายธัช กล่าว

ส่วน บริษัท พีพีเอส ดีไซน์ จำกัด (PPS DESIGN) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจด้านงานออกแบบทางวิศวกรรม ขณะนี้ได้รับงานออกแบบโครงการแล้ว 2 โครงการ เมื่อปลายปี 55 และต้นปี 56 ที่ผ่านมาและอยู่ระหว่างการเตรียมยื่นเสนองานออกแบบโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ร่วมกับพันธมิตร ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการประเภทต่างๆ ที่ต้องการรูปแบบงานก่อสร้างที่ทันสมัย มีการนำวัสดุสำเร็จรูปเข้ามาใช้แทนแรงงานคน เพื่อลดระยะเวลาและต้นทุนในการก่อสร้าง ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

อนึ่ง ผลดำเนินงานของ PPS งวดปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 268 ล้านบาท ถือเป็นยอดรายได้จากการรับงานบริหารโครงการสูงสุดในรอบ 25 ปีของการดำเนินธุรกิจ และปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่มีรายได้รวม 257 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 73% ของกำไรสุทธิ หรือคิดเป็นเงินปันผลอัตราหุ้นละ 0.03 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 25 เม.ย. 56 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 พ.ค.56


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ