บริษัทยังเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้เตรียมเงินลงทุนราว 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเน้นการลงทุนในประเทศไทยและพม่าในสัดส่วน 76% ของเงินลงทุนรวม ขณะที่พร้อมเข้าซื้อหุ้นในแหล่งโมซัมบิกเพิ่มหากผู้ถือหุ้นเดิมต้องการเสนอขายหุ้น แม้ว่ายังพอใจกับสัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่ในปัจจุบัน
นางเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองผู้จัดการใหญ่สายการเงินและบัญชี PTTEP กล่าวว่า ในปี 56 ตั้งงบลงทุนรวม 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เน้นเพื่อการลงทุนในประเทศ และพม่า คิดเป็น 76% หรือราว 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 8% เป็นการลงทุนในประเทศแคนาดา ส่วนงบลงที่เหลือลงทุนในประเทศออสเตรเลีย และธุรกิจที่ได้ซื้อกิจการ เช่น Cove เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้ตามแผน
สำหรับปริมาณขายปีนี้คงเป้าหมายไว้ที่ 3.1 แสนบาร์เรล/วัน แม้แหล่งมอนทาร่าต้องเลื่อนการผลิตจากเดิมกำหนดในเดือน มี.ค.56 เนื่องจากเกิดพายุโซโคลน แต่เชื่อว่าจะมีปริมาณผลผลิตจากแหล่งอื่นเข้ามาชดเชย เช่น แหล่ง เอส-1 ส่วนแหล่งบงกช อยู่ระหว่างพิจารณา แต่อย่างไรก็ตาม หวังว่าในไตรมาส 2/56 แหล่งมอนทาร่าจะสามารถเริ่มการผลิตได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์พายุไซโคลนจะเกิดขึ้นยาวนานแค่ไหน
ส่วนราคาขายปิโตรเลียมในไตรมาส 1/56 เฉลี่ยอยู่ที่ 65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ใกล้เคียงสิ้นปี 55 แต่ไตรมาสอื่นๆ ยังไม่สามารถประเมินราคาขายได้
นางเพ็ญจันทร์ กล่าวอีกว่า บริษัทพร้อมเข้าซื้อหุ้นเพิ่มในแหล่งโมซัมบิก หากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมแสดงความสนใจที่จะขายหุ้นออก โดยบริษัทได้รับสิทธิการจองซื้อหุ้นในราคาเสนอ ปัจจุบันบริษัทถือหุ้น 8.5%
"ปัจจุบันเราก็แฮปปี้กับ 8.5% อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาส ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ต้องดูความเหมาะสม ระยะเวลาการใช้เงิน ณ ตอนนี้ยังไม่ได้พิจารณา แต่เป็นแค่fact จนกว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นจะเปิดให้ bid"นางเพ็ญจันทร์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมองหาการลงทุนเพิ่มเติมในแถบไทย พม่า และออสเตรเลีย เน้นการซื้อกิจการที่สามารถผลิตได้ทันที เพื่อลดความเสี่ยงและลดภาระการเงิน