สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 52,783 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ
พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 29,427 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 54.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 14,864 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 27.4% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,102 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A LB155A และ LB236A (รุ่นอายุ 4.3 ปี 2.2 ปี และ 10.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,003 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI165A) มูลค่า 447 ล้านบาท
2. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF163A) มูลค่า 326 ล้านบาท
3. บริษัท เมร์เซเดส — เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (MBTH14DA) มูลค่า 293 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,067 ล้านบาท หรือคิดเป็น 51% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ขายสุทธิ 1,261 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเวินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ ขายสุทธิ 219 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 4,626 ล้านบาท
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตราสารอายุ 3 — 5 ปี ประมาณ 1 bp. เนื่องจากนักลงทุนสถาบันบางส่วนปรับการลงทุนเข้าในสินสทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ภายหลังฟิทช์ เรทติ้ง ปรับมุมมอง (Outlook) ของประเทศไทยเป็นมีเสถียรภาพ (Stable) และตัวเลขเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ทะยอยประกาศออกมามีแนวโน้มที่ดีขึ้น สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,626 ล้านบาท
อินโฟเควสท์ โดย กมลนาฏ นามวงษา โทร.02-2535000 ต่อ 332 อีเมล์: kamonnad@infoquest.co.th--