ทั้งนี้ มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อหุ้น SPALI หลังบริษัทปรับเป้า presales ขึ้นจากเดิมที่ 23,000 ล้านบาท (+8% yoy) เป็น 26,000 ล้านบาท (+21% yoy) และเปิดโครงการใหม่เพิ่มจากแผนเดิมที่ 18 โครงการ เป็น 20-22 โครงการ และเน้นโครงการต่างจังหวัดมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่ยังอยู่ในทิศทางเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดต่างจังหวัดที่ภาคครัวเรือนมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น
อีกทั้งมีความมั่นคงของรายได้ เนื่องจาก ณ สิ้นปี 2556 มี Backlog ในมือเท่ากับ 31,257 ล้านบาท และจะบันทึกรายได้ราว 9,000 ล้านบาท ในปี 2556 หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 63% ของประมาณการรายได้ปี 2556 ที่ 14,347 ล้านบาท หรือ +24% yoy
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"หุ้น SPALI คาดว่ากำไรสุทธิของ SPALI ในปี 2556 จะเติบโตปานกลาง 13% y-o-y แต่จะขยายตัวขึ้นถึง 25% ในปี 2557 ตามการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงถึง 3.13 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 จะสร้างความมั่นคงให้กับกระแสรายได้ในอนาคตได้เป็นอย่างดี ราคาเป้าหมายเป็น 25.20 บาท/หุ้น บวกกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลน่าพอใจที่ 3.7%
ทั้งนี้ นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย(SPALI) กล่าวว่า บริษัทปรับเป้ายอดขายหมายปีนี้จากที่ตั้งไว้ 2.3 หมื่นล้านบาท เป็น 2.6 หมื่นล้านบาท เพราะคาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยของตลาดยังเติบโตต่อเนื่องที่ปีก่อน ซึ่งเมื่อปี 55 ก็เคยปรับเป้าหมายยอดขายจาก 1.8 หมื่นล้านบาท เป็น 1.9 หมื่นล้านบาท แต่ก็ทำได้จริงสูงขึ้นเป็น 2.2 หมื่นล้านบาท
โดยมีความเห็นว่าบริษัทมีโอกาสที่จะทำได้ตามเป้าขายใหม่ เพราะมีแผนเปิดโครงการใหม่ปีนี้ถึง 25 โครงการ มูลค่าค่าโครงการรวม 2.5 หมื่นล้านบาท โดยสัดส่วนของการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดจะคิดเป็นประมาณ 28.5% ในปีนี้ และปีหน้าเพิ่มเป็นมากกว่า 30% นอกจากนี้ได้ให้ความสนใจตลาดต่างประเทศที่มีการเติบโตสูงโดยตั้งงบลงทุนอีกราว 2 พันล้านบาทเพื่อใช้ขยายธุรกิจในอาเซียน ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเมียนมาร์ ซึ่งปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจนขึ้น
วานนี้(11 มี.ค.)หุ้น SPALI ปิดที่ 21.30 บาท ลดลง 0.50 บาท(-2.29%)