สำหรับความคืบหน้าในการขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 210 ล้านหุ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ล่าสุดบริษัทฯได้ส่งข้อมูลผลการดำเนินงานปี 55 เพื่อประกอบการพิจารณาแล้ว คาดว่าจะสามารถขายหุ้นเพิ่มทุนได้ภายในเดือนเมษายนนี้ ตามกำหนดการที่วางเอาไว้
จากนั้นการก่อสร้างสตูดิโอครบวงจรจะเริ่มได้ภายในปลายปี 56 เพื่อให้เสร็จทันการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 58 ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโอกาสการเติบโตในอนาคต เพราะสตูดิโอและเมืองถ่ายหนังครบวงจรนี้จะเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาคที่จะสามารถรองรับทั้งการถ่ายกลางแจ้งและถ่ายในร่ม อีกทั้งยังมีเมืองใต้น้ำ เรียกได้ว่าพร้อมสรรพสำหรับทั้งงานทีวี งานอีเว้นท์ และการถ่ายหนัง เพื่อเป็นการรองรับการถ่ายทำจากทีมงานต่างชาติ ส่วนสถานที่ตั้งโครงการจะใช้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเลือกให้ตั้งอยู่ที่ใด แต่จะเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวก
“ในช่วง 1-2 ปีนี้ จะเป็นปีที่เห็นการฟื้นตัวของ MATCH อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2558 รับกับการเปิด AEC ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้บริหารมีการวางแผนและเตรียมความพร้อม ด้วยการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินไปสร้างสตูดิโอที่ครบวงจรแห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีการเริ่มศึกษาการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า และอินโดนีเซียอีกด้วย"นายสมบุญ กล่าว
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 55 ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อสิทธิ์ในการรับเงินปันผลในวันที่ 25 มีนาคม นี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 56 โดยการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ที่กำหนดจัดประชุมในวันที่ 29 เมษายน 56 นี้ก่อน
“หลังจากที่ MATCH สร้างกำไรปี 55 ทุบสถิตินับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยเพิ่มขึ้นถึง 344% จากปีก่อน เนื่องจากเราเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างการบริหารภายในและปรับโครงสร้างธุรกิจ หันมาทำในสิ่งที่มีความถนัดและชำนาญ อีกทั้งยังมีมาร์จิ้นสูง นั่นคือ ธุรกิจการให้เช่าอุปกรณ์ คณะกรรมการจึงมีมติที่จะคืนกำไรให้กับผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 6 สตางค์ กำหนดจ่ายในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้"