ส่วนการขยายสาขาในปีนี้ ตั้งเป้าขยายสาขา BEAUTY BUFFET ในประเทศเป็น 180 สาขา จากปัจจุบันที่ 155 สาขา และ BEAUTY COTTAGE เป็น 50 สาขา จาก 34 สาขา ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศมีเป้าหมายเปิดสาขาเพิ่มจำนวน 7 สาขา ประกอบด้วย กัมพูชา 3 สาขา ลาว 2 สาขา เวียดนาม โฮจิมินห์ซิตี้ 2 สาขา
นอกเหนือจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เดิมบริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งวางแผนเปิด Shop แบรนด์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่า BEAUTY BUFFET โดยสินค้าจะมีความหลากหลายและเจาะกลุ่มฐานลุกค้ากว้างขึ้น คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 3/56
นพ.สุวิน กล่าวว่า บริษัทฯตั้งงบลงทุนปี56 ประมาณ 300 ล้านบาท สำหรับการขยายสาขาร้าน BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE จำนวน 125 ล้านบาท พร้อมทั้งมีแผนก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ ศูนย์ฝึกอบรม และปรับปรุงระบบ IT เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเงินลงทุน 120 ล้านบาท ส่วนเงินลงทุนที่เหลือจะนำไปใช้ในการพัฒนาสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีคอนเซปต์ใหม่ๆ โดยเฉพาะช่องทางอีคอมเมิร์ช ที่เริ่มมีความนิยมมากขึ้น เพื่อให้สามารถครอบคลุมลูกค้าได้มากขึ้นและตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความหลากหลาย
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ MADE IN NATURE ในปี 56 มีการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดมากขึ้น ทั้ง BigC จำนวน 110 สาขา เมื่อต้นเดือน มี.ค. 56 ส่วน LOTUS และ TOPS ได้มีการตอบรับจากทางห้างแล้ว คาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายได้ในเดือนก.ค.56 ส่วน MAX VALUE และ ISETAN อยู่ระหว่างขั้นตอนการกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายต้นเดือน เม.ย.56
สำหรัลแผนงานในอนาคตปี 57 บริษัทฯจะรักษาระดับการเติบโตของรายได้ที่ 25% ต่อปี โดยต้องดูจากปัจจัยความสำเร็จในแต่ละโปรเจ็กต์ของบริษัทฯมาประกอบ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็ยังคงรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ที่ 20% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 70%