สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้ ECF จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรให้พร้อมรองรับกำลังการผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดและคำสั่งซื้อของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่มีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะมีการสั่งซื้อเครื่องจักรที่เป็นระบบ Semi Automatic ให้มากขึ้นจากเดิมภายในปี 56 รวมทั้งจะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
“ECF มีแผนขยายตลาดออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศนอกจากจะมีการเพิ่มออร์เดอร์ของกลุ่มลูกค้าเดิมในญี่ปุ่นแล้ว บริษัทมีนโยบายที่จะขยายตลาดใหม่ออกไปในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศ AEC เป็นต้น ส่วนตลาดในประเทศจะมีการขยายช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดชั้นนำ ภายใต้แบรนด์ “MUSE" “Leaf" และ “Fur Direct" การจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกรายย่อยภายใต้แบรนด์ “Costa" และการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงผ่านโชว์รูมของบริษัทเองภายใต้แบรนด์ “ELEGA" โดยการขยายตลาดใน 2 ส่วนทำให้ยอดขายและคำสั่งซื้อของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มศักยภาพการผลิตของ ECF ให้เพียงพอต่อความต้องการและสร้างการเติบโตทางธุรกิจต่อไป" นายอารักษ์ กล่าว
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ECF เป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดและไม้ยางพาราส่งออกในอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีความโดดเด่น มีระยะเวลาดำเนินงานมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ โดยเป็นผลจากผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ของบริษัทเป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี นอกจากนี้ยังมีทำเลที่ตั้งของโรงงานในอำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งช่วยให้บริษัทมีความได้เปรียบทางด้านวัตถุดิบไม้ยางพารา ทำให้รายได้จากการจำหน่ายและอัตรากำไรของบริษัทในช่วงที่ผ่านมามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ECF มีแผนขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศออกไปอย่างต่อเนื่อง การระดมทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตของบริษัทในครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทสามารถผลิตสินค้ารองรับคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นได้อย่างเพียงพอ และเป็นการสร้างโอกาสเตรียมรองรับการเติบโตอย่างมีศักยภาพต่อไปในอนาคต
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บล.โนมูระ พัฒนสิน(CNS) แกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ เปิดเผยว่า ECF เป็นบริษัทที่มีความพร้อมในการเติบโตขณะที่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีทั้งในและต่างประเทศ ราคาหุ้น ECF ที่เสนอขายให้กับนักลงทุนในราคา 1.20 บาท จึงถือเป็นระดับราคาที่มีความน่าสนใจ เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจัยพื้นฐานและโอกาสทางธุรกิจของบริษัท เชื่อว่าการเปิดจองหุ้น IPO ในระหว่างวันที่ 15 และ 18-19 มี.ค.นี้ จะได้รับความสนใจและมีกระแสตอบรับที่ดีอย่างมากจากนักลงทุน
ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นไอพีโอของ ECF มีผู้จัดจำหน่ายร่วม ประกอบด้วย บล.ฟินันเซียไซรัส, บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย), บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) และ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)(KGI)