บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น SVOA ให้ราคาเหมาะสม 3.60 บาท คาดว่าผลประกอบการจะเข้าสู่การ Turnaround ในปี 2556 และผลักดันให้กำไรสุทธิ เติบโตสูงถึง +99.1% yoy เป็น 157 ล้านบาท และต่อเนื่อง +29.4% yoy เป็น 204 ล้านบาทในปี 2557 หรือเทียบเท่าการเติบโตของกำไรเฉลี่ย (CAGR) ช่วงปี 2555 — 2558 สูงถึง 44% ต่อปี
ราคาหุ้นยังซื้อขายที่ PER 2556 เพียง 11.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ICT ขนาดเล็กที่ 15-16 เท่า รวมทั้งยังมี upside ต่อราคาเป้าหมายอีกถึง 1.30 บาทต่อหุ้น หากบริษัทชนะการประมูล Tablet
ทั้งนี้ มีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจรับวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ที่คาดว่าจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นตั้งแต่ปี 2556 — 2558 จากการลงทุนครั้งใหม่ของภาคเอกชน เพื่อรองรับการเกิดเสรีอาเซียน และ Mega Project ของรัฐบาล ภายใต้โครงการ Smart Thailand มูลค่ารวมสูงถึง 60,000 ล้านบาท ใน 3 ปี ข้างหน้า และคาดว่าจะเริ่มเห็นการประมูลงานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2H56 เป็นต้นไป
ดังนั้น SVOA ซึ่งเป็น 1 ในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญงานวางระบบ จะได้รับประโยชน์โดยตรงจาก Backlog ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าอัตรากำไรจะเร่งตัวขึ้น เนื่องจากคาดว่าจะไม่เห็นการตัดราคากันรุนแรงเหมือนในอดีตเพื่อเข้าประมูลงาน เพราะจำนวนคู่แข่งขันแต่ละรายมีความสามารถในการรับงานที่จำกัด เมื่อเทียบกับมูลค่างานที่สูงถึงกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี
ขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ สื่อสาร และคอมพิวเตอร์ ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในปีที่ผ่านมา และการแข็งค่าของเงินบาทจะเอื้อประโยชน์ต่อ SVOA ซึ่งนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น
นอกจากนั้น การเกิด Windows 8 ใน 2H56 จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ทั้ง PC และ Note เพื่อทดแทนของเดิม และเป็นบวกต่อยอดขายสินค้าของบริษัท
รวมทั้งราคาหุ้นมี Catalyst ต่อเนื่องรออยู่ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ได้แก่ การเข้าร่วมประมูลโครงการ Tablet ของรัฐบาล ในเดือน เม.ย. และการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาด (IPO) ใน 3Q56