จากประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนเกรงว่าปัญหานี้อาจจะสร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาหนี้กลุ่มยูโรโซน ส่งผลให้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับลงแรง 126 จุด ตลาดหุ้นญี่ปุ่นลง 1.5% คาดว่าตลาดหุ้นไทยก็น่าจะปรับลง โดยให้แนวรับ 1,585 เป็นจุดแรก จากนั้นดูที่ 1,570 จุด ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,600 จุด
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเช้านี้ก็คงจะปรับลงทิศทางเดียวกัน
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด (15 มี.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,514.11 จุด ลดลง 25.03 จุด(-0.17%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,560.70 จุด ลดลง 2.53 จุด(-0.16%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,249.07 จุด ลดลง 9.58 จุด(-0.30%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 195.51 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 11.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 347.79 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 40.80 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 11.79 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 24.89 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น ลดลง 2.00 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 18.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 มี.ค.)ที่ 1,598.13 เพิ่มขึ้น 11.34 จุด (+0.71%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,988.68 ล้านบาท เมื่อศุกร์ (15 มี.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(15 มี.ค.)ที่ 93.45 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.42 ดอลลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้ (15 มี.ค.) ที่ 9.01 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 29.58/60 อ่อนค่าตามภูมิภาค คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 29.55-29.70
- ชำแหละต้นเหตุ"สวมสิทธิ"โครงการ รับจำนำข้าว เหตุมีการกำหนดผลผลิตต่อไร่ สูงเกินจริง ส่งผลให้เกิดข้าวส่วนเกินสูง 9.1 ล้านตัน เปิดช่องว่างชาวนา ขายสิทธิ"พ่อค้า-โรงสี"กว้านซื้อข้าวในตลาดประเทศเพื่อนบ้านราคาถูก ส่งเข้าโครงการรับจำนำรับราคาตันละ 14,800 บาท ส่งผลรัฐเสียหายถึง 1.36 แสนล้าน เผยกลุ่มร่วมกระบวนการ มีการแบ่งผลประโยชน์ถ้วนหน้า นายกสมาคม ชาวนาไทย ชี้ซื้อข้าวกัมพูชาตันละ 6,500-7,000 บาท เข้าสวมสิทธิโครงการรับจำนำ รับตันละ 14,800 บาท
- เลขาธิการ สศก.รับผลผลิตข้าวไทยเฉลี่ย ปี 54/55 อยู่ที่ 414 กก.ต่อไร่ ที่ความชื้น15% ต่ำกว่าเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม นายกสมาคม ชาวไทยเตือนรัฐเร่งปิดช่องว่างป้องทุจริตจำนำข้าว ขณะที่ชาวนาโวยไม่ได้รับใบประทวน ธ.ก.ส.อ้างยังไม่มีเงินใช้โครงการรับจำนำ
- "บัณฑูร" ประเมินสภาพคล่องในระบบแบงก์ไม่พอรองรับ โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน เหตุเป็นโครงการระยะยาว แนะพึ่งตลาดทุนและตลาดต่างประเทศ ด้านแบงก์พาณิชย์หลายแห่งพร้อม "ปล่อยกู้-ที่ปรึกษา"ขณะที่ธ.ก.ส.เตรียม 5 หมื่นล้าน
- บาร์เคลย์ส หั่นคาดการณ์ราคาทองปี 2556-2557 ลงเหลือ 1,646-1,600 ดอลลาร์ สวนทางแนวโน้มตลาดหุ้นที่สดใส โดยระบุว่า ความเสี่ยงช่วงขาลงของราคาทองเพิ่มขึ้น สอดคล้องโบรกเกอร์ค้าทอง เผยการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นแรงกดดันราคาทอง ด้านสภาทองทำโลกมองสวน โดยระบุว่าธนาคารกลางทั่วโลกต่างหันมาเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น เพื่อกระจายเสี่ยงจากการถือครองดอลลาร์
- "แบงก์ชาติ"ยอมรับห่วงสินเชื่อโตร้อนแรง โดยเฉพาะสินเชื่อครัวเรือน แต่ยังทำอะไรมากไม่ได้ เหตุสัญญาณ "ฟองสบู่" ยังไม่ชัด อีกทั้งคุณภาพสินเชื่ออยู่ในเกณฑ์ดี ระบุเกณฑ์ LTV แม้ต้องวางเงินดาวน์ 10% แต่ระบบการซื้ออสังหาฯ ไทยทำให้ต้องใช้เงินจริงไม่น้อยกว่า 15-20% ย้ำคุมสินเชื่อบุคคลต้องคิดรอบคอบ หวั่นหนีพึ่งหนี้นอกระบบ โชว์ระดับเอ็นพีแอลหดสวนทางสินเชื่อพุ่ง
*หุ้นเด่นวันนี้
- KSL(กรุงศรี)"ซื้อ"เป้า 17 บาท การขยายกำลังการผลิตน้ำตาลและโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องจะสนับสนุนการฟื้นตัวของผลประกอบการปี 57-58 ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าและเอทานอลจะช่วยลดความผันผวนของธุรกิจน้ำตาลในระยะยาว ขณะที่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบันซื้อขายเพียง 10xP/E ของกำไรสุทธิปี 56 ถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มน้ำตาลในภูมิภาค (12xP/E) และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลจูงใจกว่าปีละ 4%-5%
- BGH(เคจีไอ)"ซื้อ"เป้า 195 บาท ยังคงขยายธุรกิจเชิงรุกอย่างต่อเนื่องทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง แนวราบนอกจาก รพ.ใหม่ลักษณะ green-field 3 แห่ง (กัมพูชา เชียงใหม่ และระยอง)แล้ว ยังมีแผนสร้าง รพ.ขนาด 100 เตียงเพิ่มอีกแห่งที่ภูเก็ต เน้นตลาดระดับรองลงมา สำหรับแนวดิ่ง เพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน The Medic Pharma จาก 49% เป็น 84% เป็นผู้ผลิตยาที่ทำกำไรได้ มองเป็นบวกต่อบริษัทโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะยาว