เนื่องจากมองเห็นว่าธุรกิจในปัจจุบันไม่ว่ารายใหญ่หรือรายเล็กจำเป็นต้องปรับตัว โดย 2 สิ่งที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องคำนึงถึง คือ การเพิ่มราคาขาย และลดต้นทุน
ในส่วนของการเพิ่มราคาขายจะทำได้ต้องสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดให้กับธุรกิจที่มีอยู่ให้ฉีกออกไปจากการทำธุรกิจในแบบเดิมๆ เพื่อให้เกิดความแตกต่าง ให้มีนวัตกรรมของสินค้า
ส่วนการลดต้นทุนคือ การสร้างสมดุลที่ดีระหว่างการส่งออกและนำเข้า โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่บาทแข็งค่าแบบนี้ส่งออกรับดอลลาร์เข้ามาก็ให้จ่ายเป็นดอลลาร์ออกไป ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสนำเข้าเครื่องจักรเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสายการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ให้เกิดผลิตภาพ
"เวลานี้ถ้าได้เงินตราต่างประเทศมาก็ต้องปิดความเสี่ยงทันที ต้องเป็นทั้ง Exporter และ Importer ในเวลาเดียวกัน"นายสุเมธ กล่าว
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุนในอาเซียนเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแผนตั้งโรงงานแปรรูปอาหารจากข้าวในกัมพูชา เนื่องจากกัมพูชามีความพร้อมในหลายๆด้าน โดยกำลังอยู่การศึกษาว่าจะลงทุนเองหรือจะเป็นการร่วมทุน แต่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนก่อน AEC เปิดในปี 2015 อย่างแน่นอน
"กำลังศึกษาแผนลงทุนที่กัมพูชา คาดว่าชัดเจนก่อน AEC เปิดแน่นอน หลังจากนั้นค่อยดูพม่า"นายสุเมธ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายสุเมธ กล่าวว่า เครือซีพี มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการลงทุนในต่างประเทศ ขยายการลงทุนไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากตลาดแต่ละแห่งมีความหลากหลาย และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงหากตลาดใดเกิดปัญหาขึ้นมา แต่ในตลาดอื่นๆ ยังช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้