การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,601.34 จุด จากนั้นช่วงบ่ายปรับลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงบ่าย โดยดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,554.27 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 116 หลักทรัพย์ ลดลง 596 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 91 หลักทรัพย์
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับลงแรงจากข่าวเรื่องความกังวลที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกมาพูดเรื่องค่าเงินบาทแข็ง ตลาดคาดการณ์อาจมีมาตรการออกมาจึงขายทำกำไรก่อน ซึ่งเชื่อว่าเป็นแค่ข่าวธรรมดาแต่ที่ลงแรงเพราะตลาดเปราะบางอยู่แล้วและเกิด Sell Signal เมื่อมีข่าวนี้ออกมาจึงขายออกมาค่อนข้างมาก ถือเป็นจุดดีเพราะตลาดไม่เคยปรับฐานเลยตั้งแต่พ.ย.มาถึงปัจจุบัน
"วันนี้ถือว่าปรับฐานหนักที่สุด เป็นจุดดีเพราะทำให้มีการเปลี่ยนต้นทุนกันใหม่ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศไม่มีอะไรปัญหาเรื่องไซปรัสไม่น่าจะมีผลมากมาย เป็นการขายทำกำไรของนักลงทุนรายย่อยมากกว่าหุ้นใหญ่ เพราะหุ้นใหญ่แรงขายแทบจะไม่มี ส่วนใหญ่เป็นหุ้นเล็กที่ขึ้นไปค่อนข้างแรงเวลาปรับลงจะแรง"นายเกียรติก้อง กล่าว
ทิศทางพรุ่งนี้ หากข่าวนี้จางหายไปหรือถูกปฏิเสธออกมา ดัชนีน่าจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้ แต่การดีดตัวรอบนี้อาจไม่แรงเท่ากับที่ปรับลงไป อาจจะขึ้นมา 2 ใน 3 ซึ่งถือเป็นภาวะปกติ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 4,647.39 ล้านบาท ปิดที่ 7.75 บาท ลดลง 0.10 บาท
BTS มูลค่าการซื้อขาย 2,296.97 ล้านบาท ปิดที่ 9.35 บาท ลดลง 0.05 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,147.63 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,877.62 ล้านบาท ปิดที่ 2.62 บาท ลดลง 0.16 บาท
N-PARK มูลค่าการซื้อขาย 1,737.81 ล้านบาท ปิดที่ 0.18 บาท ลดลง 0.01 บาท