เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือไซปรัสวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร โดยข้อตกลงช่วยเหลือดังกล่าวระบุว่า ผู้มีเงินฝากในบัญชีธนาคารมากกว่า 100,000 ยูโรจะถูกหักภาษี 9.9% และจะมีการเก็บภาษี 6.75% สำหรับจำนวนเงินที่ต่ำกว่านั้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ไซปรัสระดมทุนได้ 5.8 พันล้านยูโร
แม้ว่ารัฐบาลไซปรัสได้พิจารณาทบทวนร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อช่วยให้ผู้ฝากเงินรายย่อยที่มีเงินในบัญชีธนาคารไม่เกิน 20,000 ยูโรไม่ต้องเสียภาษีอัตรา 6.75% แต่มาตรการดังกล่าวก็ยังเผชิญกับการต่อต้านจากพรรคฝ่ายค้านและแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลเอง จนในที่สุดรัฐสภาไซปรัสมีมติปฏิเสธมาตรการดังกล่าว
ล่าสุดนายลุค ฟรีเดน รัฐมนตรีคลังของลักเซมเบิร์ก ได้เรียกร้องให้มีการจัดประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนขึ้นอีกโดยเร็ว เพื่อผลักดันแผนการชุดใหม่ในการช่วยเหลือทางการเงินแก่ไซปรัส หลังจากที่แผนการเดิมถูกปฏิเสธโดยรัฐสภาไซปรัส
ด้านธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะต้องตัดสินใจเช่นกันว่าจะขยายเวลาให้ไซปรัส หรือจะพิจารณางดอัดฉีดเงินให้กับธนาคารพาณิชย์ของประเทศ โดยสภาบริหารของอีซีบีมีกำหนดประชุมร่วมกันในวันนี้
ขณะเดียวกันนายไมเคิล ซารริส รมว.คลังไซปรัสได้พบปะหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียที่กรุงมอสโกในวันนี้ ในการนำเสนอแผนการเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศ