นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร CPF กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้ในแง่ของผู้ส่งออกย่อมเสียเปรียบ แต่หากมองผู้นำเข้าก็จะได้เปรียบ ซึ่งในส่วนของบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า ทั้งด้านยอดขายและแผนการลงทุน
อย่างไรก็ตามมองว่าเงินบาทที่แข็งควรเปรียบเทียบเจาะเป็นรายสินค้ากับประเทศคู่แข่งว่ามีความได้เปรียบเสียเปรียบกันหรือไม่อย่างไร แต่หากขณะนี้มองว่าถ้าเทียบกับเวียดนาม อินโดนีเซีย และจีน ไทยมีความเสียเปรียบ
"ต้องดูขนาดของสินค้า เจาะที่ตัวสินค้าแต่ละประเภท เปรียบเทียบกับประเทศที่มีสินค้าประเภทเดียวกัน" นายอดิเรก กล่าว
ทั้งนี้ยอมรับว่า CPF ยังมองการซื้อกิจการในต่างประเทศ ทั้งยุโรปและสหรัฐ แต่จะมีข้อสรุปที่ชัดเจนในเร็วๆนี้หรือไม่นั้น ต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดมาก เพราะการซื้อกิจการต้องมั่นใจว่าจะไม่เป็นการเพิ่มภาระให้มากขึ้น
อนึ่งก่อนหน้านี้ CPF ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตปีละ 10-15% โดย 5 ปีข้างหน้าจจะมียอดขายที่ 7 แสนล้านบาท จากปี 55 ที่มียอดขาย 3.57 แสนล้านบาท