หุ้นไนกี้พุ่ง 8.2% หลังบริษัทรายงานกำไรเบื้องต้นขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ไตรมาส เนื่องจากยอดขายที่แข็งแกร่งในประเทศจีน
วานนี้ หุ้นนิวยอร์กถูกเทขายหนักสุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 90.24 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 14,421.49 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.83% และดัชนี Nasdaq ร่วงถึง 0.97% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านการเงินของไซปรัส ซึ่งได้บดบังข้อมูลเศรษฐกิจในด้านบวกของสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองที่พุ่งขึ้นเกินคาด
สำหรับวันนี้ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ดังนั้นความสนใจของตลาดจึงมุ่งไปที่สถานการณ์ในไซปรัสที่กำลังเผชิญวิกฤตการเงินที่รุนแรง โดยล่าสุดธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยื่นคำขาดว่าจะตัดความช่วยเหลือจากไซปรัสในวันจันทร์หน้า หากไซปรัสไม่สามารถระดมเงินทุนให้มากเพียงพอในการหลีกเลี่ยงภาวะล่มสลายทางการเงิน
ด้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไซปรัสลง 1 ขั้น สู่ระดับ "ขยะ" หลังจากรัฐสภาไซปรัสได้ปฏิเสธมาตรการจัดเก็บภาษีเงินฝากในระบบธนาคาร ซึ่งส่งผลให้ไซปรัสเผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้อย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ เอสแอนด์พีได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของไซปรัสลงจากระดับ CCC+ มาอยู่ที่ระดับ CCC และให้แนวโน้มเป็นลบ
เอสแอนด์พีเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไซปรัสลงอีก หากไซปรัสไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ดี เริ่มมีกระแสคาดการณ์ในตลาดว่า ไซปรัสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อระดมทุนให้ได้ 5.8 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการรับเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟได้