ในปีนี้บริษัทมีรายได้เสริมจากการรับจ้างบริหารจัดการกองเรือที่มีอยู่ 12 ลำ โดยในปี 55 มีรายได้จากการรับจ้างบริหารจัดการกองเรือราว 41 ล้านบาท ซึ่งบริษัทก็ได้มองโอกาสในการหาเรือเข้ามาบริหารเพิ่มเติมจากปัจจุบัน
“บริษัทมีแผนกลยุทธ์ในการปรับสัญญาเช่าเรือเป็นสัญญาระยะสั้น (6 เดือน) ทั้งหมดแล้ว เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนค่าเช่าได้เพิ่มสูงขึ้น ในช่วงที่มีการประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมเดินเรือจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น ถ้าไปทำสัญญาระยะยาวเมื่อมีโอกาสที่ราคาค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้นเราจะเสียโอกาสไป แต่ถ้าหากมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากกกว่านี้แล้วก็จะมีการพิจารณาปรับสัญญาเป็นระกลางและระยะยาวต่อไปก็ได้"นายเชนศร์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังไม่มีแผนในการลงทุนเพื่อจัดหาเรือใหม่ เพราะได้มีการลงทุนซื้อเรือลำใหม่ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งหากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นจะสามารถหารายได้จากกองเรือที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่
สำหรับกรณีที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทอย่างมาก เนื่องจากการบันทึกรายได้ของบริษัทเป็นรูปแบบดอลล์ลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถ้าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นทุก 1 บาท จะทำให้รายได้หายไปประมาณ 12 ล้านบาท แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลดีต่อหนี้สินของบริษัท ทำให้หนี้สินลดลง โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินรวม 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้น การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขั้นทุก 1 บาท จะทำให้หนี้สินลดลง 22 ล้านบาท