พร้อมทั้งตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโตประมาณ 30-35% หรือสูงขึ้นมาที่ 2.4-2.5 หมื่นล้านบาท จากที่ปี 55 มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ 1.9 หมื่นล้านบาท จากที่ปีนี้มองภาพรวมของเศรษฐกิจเติบโตดี และจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น รถเพื่ออุตสาหกรรมต่าง รถเพื่อการเกษตร ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯจะพยายามรักษาสัดส่วนของพอร์ตให้อยู่ในระดับเดิม คือ สินเชื่อรถบรรทุก คิดเป็น 70% ของพอร์ตทั้งหมด
"ในส่วนของกำไรนั้นเรายังไม่แน่ใจว่าจะเติบโตมากขนากไหนเนื่องจากปัจจุบันก็ยังไม่มีความแน่นอน แต่หากดอกเบี้ยปรับตัวลดลง ก็จะส่งผลให้กำไรของบริษัทฯในปีนี้เติบโตขึ้นไปอีก" นายโกวิท กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขา จากปัจจุบันที่มีทั้งหมด 6 สาขา โดยจะเป็นการขยายสาขาในภาคอีสาน 1 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 55 บริษัทได้เปิดสาขาใน จ.เชียงราย เป็นครั้งแรก เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)เนื่องจากมองว่าการขนส่งระหว่างประเทศ ไทย พม่า และจีนจะเติบโตขึ้น และมีความต้องการรถบรรทุกมากขึ้น ฃ
ในปีนี้บริษัทฯมีแผนจะออกหุ้นกู้ 3-3.5 พันล้านบาท โดยจะเป็นการเสนอขาย 2 ครั้ง แบ่งเป็นในช่วงเดือน พ.ค.56 และช่วงปลายปี 56 โดยหุ้นกู้จะมีอายุประมาณ 4 ปี จุดประสงค์เพื่อระดมเงินทุนรองรับการเติบโตที่รวดเร็วของบริษัท
"เราได้มีการปรึกษากับทางที่ปรึกษาทางการเงินแล้วมองว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่จะมีการออกหุ้นกู้" นายโกวิท กล่าว
ส่วนของหนี้เสีย (NPL) บริษัทตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะควบคุมให้อยู่ในระดับที่ไม่เกิน 2.5% ของสินเชื่อทั้งหมด จากที่ปี 55 อยู่ที่กว่า 3% ซึ่งการที่ NPL ของบริษัทปรับลดลงเนื่องจากได้มีการปรับปรุงการเร่งรัดทวงหนี้ และเศรษฐกิจที่ดีจึงทำให้การจ่ายค่างวดของลูกหนี้ดีตามไปด้วย ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทได้มีการตั้งสำรองไว้ประมาน 300 กว่าล้านบาท แต่ในระยะเวลาอีก 1-2 ปีข้างหน้าบริษัทได้มีการเตรียมการเพื่อจะปรับเปลี่ยนมาตรฐานการตั้งสำรองใหม่ เนื่องจากบริษัทฯมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย