นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ BWG กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุนโครงการอัดขนะเพื่เป็นเชื้อเพลิง (RDF) กำลังผลิต 1,000 ตัน/วัน แบ่งเป็นเฟสแรกกำลังการผลิต 250 ตัน/วัน ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จพร้อมรับรู้รายได้ภายในเดือน เม.ย.56 และเฟสที่สอง มีกำลังผลิต 750 ตัน/วัน ใช้เงินลงทุน 400-500 ล้านบาท คาดเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/56 ทั้งนี้แหล่งเงินทุนมาจากเงินกู้สถาบันการเงิน
ดังนั้น บริษัทจึงปรับเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโต 30% สูงขึ้นจากคาดการณ์เดิม
รายได้จากโครงการ RDF ในปีนี้จะเข้ามาสัดส่วน 15%ของรายได้รวม และปี 57 มีรายได้จาก RDF เข้ามาเต็มปี สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 30% ทั้งนี้ลูกค้าหลักจะเป็นโรงผลิตปูนซิเมนต์ที่ปัจจุบันใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ราคาประมาณ 2,500-3,000 บาท/ตัน แต่ RDF มีราคาต่ำกว่าถ่านหิน โดยจะขายที่ราคา 1,000-1,500 บาท/ตัน
ในปีนี้บริษัทคาดว่าปริมาณกากขยะอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 20-25% จากปีก่อนที่มีปริมาณ 3 แสนตัน ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับราคาบริการอีก 20-25% จากปีก่อน ซึ่งมีผลตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ โดยราคากำจัดขยะมีพิษปรับขึ้นมาเป็นเฉลี่ย 4,000 บาท/ตัน จากราคาเฉลี่ย 3,500 บาท/ตัน ขณะที่จำนวนฐานลูกค้าในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 20-25% จากปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าไม่ต่ำกว่า 3 พันรายทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวโรงไฟฟ้าขยะที่จะร่วมทุนกับพันธมิตรหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยจะใช้ขยะอัดก้อนมาเป็นเชื้อเพลิง ทั้งนี้ถือเป็นโรงไฟฟ้าขยะแห่งแรกในไทย
นายสุวัฒน์ มองว่า ธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรม โดยเฉพาะขยะมีพิษให้มาร์จิ้นสูงขึ้น และมีแนวโน้มจะขยายตัวจากกฎระเบียบราชการที่ให้โรงงานอุตสาหกรรมเข้าระบบถูกต้อง ปัจจุบันมีอยู่กว่า 8 หมื่นโรงงานทั่วประเทศ ในปี 55 ที่ผ่านมา ขยะทั่วไปมีอัตราการเติบโต 20% เป็น 25-26 ล้านตัน ส่วนขยะมีพิษ เติบโตราว 30% จาก 3 ล้านตันเป็น 4 ล้านตัน
ดังนั้น บริษัทจึงมีแผนขยายรถขนขยะจากปัจจุบันมีอยู่ 100 คัน ซึ่งขนขยะได้วันละ 100 เที่ยว โดยอยู่ระหว่างปรับปรุงรถชุดใหม่ให้มีการขนย้ายขยะถูกต้องตามกฎระเบียบราชการ รวมทั้งคาดว่าปีนี้ขยะมีพิษจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก จากปีก่อน 2 แสนตัน หรือคิดเป็น 5% ของขยะในตลาด(4 ล้านตัน) และปีนี้ตั้งเป้าจะได้รับงานกำจัดขยะจำนวนประมาณ 10% ของขยะในตลาด
"เรามองว่า AEC เกิดจะเป็นตัว Shoot มาร์จิ้นให้กับเรา เพราะเราปรับราคาที่นำส่งจากโรงงานในประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างประเทศไปลงทุน เตาเผาขยะของเราได้มาตรฐานในอาเซียน"นายสุวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ จากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกฟ้องกรณีออกใบอนุญาตให้ BWG ทำธุรกิจฝังกลบกากขยะอุตสาหกรรม เมื่อ 20 มี.น.ที่ผ่านมาช่วยสร้างความมั่นใจให้กับหน่วยราชการอื่นที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบบริษัท ชาวบ้านรอบพื้นที่ธุรกิจ และ ลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าในอนาคต ทั้งนี้ พื้นที่ฝังกลบกากขยะอุตสาหกรรมตั้งอยู่จ.สระบุรี พื้นที่ 300 ไร่