ในขณะที่ยังมียอดขายรอการโอน (backlog) ในมืออีกกว่า 1,800 ล้านบาท ที่คาดว่าจะรับรู้ได้ทั้งหมดภายในปีนี้ โดยมีเป้าหมายยอดขาย (Presale) ของปี 56 ประมาณ 3,500 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ประมาณ 3,300 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 55 ที่มียอด Presale มูลค่า 2,800 ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังได้เตรียมงบประมาณสำหรับซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆอีก 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปี 56 จะใกล้เคียงกับปี 55 ที่ 12.79% แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากปี 55 ที่อยู่ในระดับ 36% เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีการเปิดโครงการแนวราบมากกว่าแนวสูง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ราคาขายเฉลี่ยในโครงการของบริษัทปีนี้คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้น 5% จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ราคาที่ดิน ต้นทุนค่าแรง และราคาวัสดุก่อสร้างที่มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับโครงการใหม่ 7 โครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ มูลค่ารวม 6,080 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ บริดจ์ นราธิวาส มูลค่า 320 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ Q4/56, โครงการไอโคเนเจอร์ รามอินทรา 109 มูลค่า 941 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ Q2/56,
โครงการ ซีรีน กัลปพฤกษ์ มูลค่า 550 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ Q2/56, โครงการปริญ ราชพฤกษ์ มูลค่า 1,700 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ Q3/56, โครงการ ซิกเนเจอร์ พระยาสุเรนทร์ 24 มูลค่า 760 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปี 57, โครงการซิตี้เซ้นส์ สรงประภา 22 มูลค่าโครงการ 840 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 57 และโครงการ ซิตี้เซ้นส์ เพชรเกษม69 (อินทราปัจ) มูลค่า 800 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปี 57
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดปี 55 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 354.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.46% จากปี 54 ที่มีกำไรสุทธิ 203 ล้านบาท โดยสาเหตุที่กำไรของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากยอดรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 25.81% เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯเร่งส่งมอบบ้านได้ดีขึ้น และในปี 55 อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง มีการปรับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคลจาก 30% เป็น 23%
"จากตัวเลขผลการดำเนินงานปี 55 ที่ออกมา เป็นการยืนยันได้ว่า บมจ.ปริญสิริ ฟื้นตัวแล้ว หลังจากที่สามารถแก้ปัญหาการก่อสร้างได้ดีขึ้น ทำให้ยอดรับรู้รายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อน และนับจากนี้ไป PRIN จะกลับมาเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง"นายชัยรัตน์ กล่าว
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในไตรมาส 1/56 อยู่ที่ 600 ล้านบาท ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/55 ที่มีรายได้อยู่ที่ 700 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/55 มียอดโอนเข้ามามากกว่าปกติ หลังจากได้รับผลกระทบน้ำท่วมในช่วงปลายปี 54 ทำให้รายได้ในไตรมาส 1/55 มีรายได้มากกว่าปกติ
“ในไตรมาส 1/56 สถานการณ์อยู่ในสภาวะปกติ ทำให้ยอดโอนในไตรมาสนี้ไม่มากนัก จากไตรมาส1ปีที่แล้วที่มียอดโอนมากกว่าปกติ จากภาวะน้ำท่วมในช่วงปลายปี 54 ทำให้การโอนในโครงการต่างๆต้องเลื่อนมาโอนในไตรมาสที่ 1/55 นอกจากนี้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่จะมีการโอนในช่วงไตรมาสสุดท้ายกันมาก ทำให้ไตรมาสแรกรายได้ไม่มาก" นายชัยรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนในการออกหุ้นกู้วงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะออกในช่วงไตรมาส 3/56 หรือ ไตรมาส 4/56 เพื่อจะนำไปชำระหนี้ของบริษัทที่เหลืออยู่ โดยจะเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในช่วงเดือนเม.ย.56 ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการออกหุ้นกู้วงเงิน 700 ล้านบาทไปแล้วในปลายเดือน ก.พ.56 โดยวงเงิน 400 ล้านบาทได้นำไปชำระหนี้ ส่วนอีก 300 ล้านบาทนำไปใช้พัฒนาโครงการใหม่