อย่างไรก็ตาม การที่รายได้ในปีนี้เติบโตน้อยกว่าปี 55 เมื่อเทียบกับปี 54 ที่เติบโตถึง 50% มาจากการที่มีรถยนต์บางรุ่นหยุดการผลิตและมีลูกค้าของบริษัท 1 รายได้ย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย ทำให้ส่งผลกระทบต่อยอดขายที่หายไปราว 50-60 ล้านบาท อีกทั้งสัดส่วนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงเป็น 20% จากปี55 25%
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แห่งใหม่ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 4 โดยมองพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกของประเทศ พื้นที่ราว 20 ไร่ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/56 ซึ่งการสร้างโรงงานใหม่ในครั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับออเดอร์ของลูกค้าในปี 58 ขณะที่กำลังการผลิตในโรงงานปัจจุบันใช้ไปแล้วกว่า 80% ทำให้อาจไม่เพียงพอกับออเดอร์ใหม่ที่เข้ามา
ปัจจุบันบริษัทมีการรับออเดอร์ล่วงหน้า 2 ปี และโรงงานแห่งใหม่จะเป็นโรงงานหลักในการผลิต สามารถออเดอร์ของลูกค้าได้ 5-6 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าในปีอีก 5 ปีข้างหน้า (2560) จะมียอดการผลิตรถยนต์มากกว่า 3 ล้านคัน
นายจุมพล กล่าวว่า แผนการสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 56 และก่อสร้างเสร็จในปี 58 และใช้เงินลงทุนมากกว่า 200 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะมีการพิจารณาแผนการเพิ่มทุน เพื่อนำไปใช้ในการขยายกำลังการผลิตและซื้อเครื่องมือเครื่องจักรนำไปใช้ในโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งคาดว่าได้ข้อสรุปการเพิ่มทุนในช่วงไตรมาส 3/56
"บริษัท ยังสามารถขอเพิ่มวงเงินกู้จากสถาบันการเงินได้ เพื่อนำมาลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่โดยไม่ต้องมีการเพิ่มทุน ซึ่งถ้าเงินลงทุนในการสร้างโรงงานนั้คำนวณออกมาต่ำกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี D/E อยู่ที่ 1.55 เท่า แต่บริษัทจะรักษาระดับ D/E ให้ไม่เกินเพดานที่ 2.5 เท่า" นายจุมพล กล่าว