SEAFCO พุ่ง 5.43% โบรกฯปรับเพิ่มกำไรปีนี้จากรายการหนี้สงสัยจะสูญรับคืน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 27, 2013 10:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น SEAFCO พุ่งขึ้น 5.43% มาอยู่ที่ 9.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 14.96 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. โดยเปิดตลาดที่ 9.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 9.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 9.50 บาท

บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีฟโก้(SEAFCO)ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2556 ขึ้นจากเดิมอีก 3% จากรายการหนี้สงสัญจะสูญรับคืน โดยคาดว่าปี 2556 จะมีกำไรสุทธิ 167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%YoY และประเมิน Fair Value โดยอิง PBV 2.82 เท่า จะให้ราคาเหมาะสมก่อน XD อยู่ที่ 9.99 บาท ขณะที่ Fair Value หลัง XD จะลดลงเหลือ 8.57 บาท เทียบเท่า PER 16 เท่า

แนวโน้มกำไร 1H56 โดดเด่น จากทั้งธุรกิจปกติ และการบันทึกกำไรพิเศษ โดยโครงสร้าง Backlog ปัจจุบันกว่า 74% เป็นงานที่รับเฉพาะค่าแรง ซึ่งให้ margin สูง ขณะที่ภาวะการแข่งขันด้านราคาในปัจจุบันที่ลดลงไปมาก หลังบริษัทรับเหมาก่อสร้างส่วนใหญ่มีงานเต็มมือ น่าจะทำให้ SEAFCO ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้สูงกว่า 17%

โดยเฉพาะในช่วง 1H56 ที่รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากงานเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีเขียวและงานสถานีใต้ดินรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน นอกจากนี้ในช่วง 1Q56 จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากหนี้สูญรับคืน ในโครงการชารีสมา เข้ามาจำนวน 13 ล้านบาท และน่าจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากหนี้สูญรับคืนอีก 9 ล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปี หลังศาลฎีกามีคำพิพากษา จะช่วยหนุนกำไรในช่วง 1H56 ให้เติบโตโดดเด่น แม้ปีนี้จะต้องกลับมาเสียภาษีในอัตรา 20% เป็นปีแรกก็ตาม

ทิศทางธุรกิจสดใส ตั้งเป้ารายได้ปี 2556 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%YoY โดยโครงการก่อสร้างจำนวนมากที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทั้งจากภาครัฐและเอกชน ส่งผลบวกอย่างมากต่อในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดในธุรกิจเสาเข็มและฐานราก และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 30% โดยสิ้นปี 2555 มี Backlog คงเหลือ 1,568 ล้านบาท จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้จำนวน 1,177 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 391 ล้านบาท รับรู้ในปี 2557

ขณะที่เป้ารายได้ปี 2556 ตั้งไว้ที่ 1,600-1,800 ล้านบาท ขึ้นกับลักษณะงานที่รับเข้ามาใหม่ในระหว่างปี ว่าจะเป็นงานที่รวมค่าวัสดุก่อสร้าง หรืองานที่รับเฉพาะค่าแรง ส่วนการขยายงานไปต่างประเทศ จะมุ่งเน้นไปที่พม่า ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากพม่าปีนี้ที่ 5% ขณะที่การลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ ตั้งงบลงทุนไว้ 100 ล้านบาท สำหรับซื้อรถเครนเพิ่มอีก 5 คัน ซึ่งน่าจะเพียงพอรองรับการเติบโตของรายได้ในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้าที่ระดับประมาณ 10% ต่อปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ