ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้จาก private network มากกว่า 22% และจากการเปิดประมูลทีวีดิจิตัล ก็จะส่งผลให้บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากโครงข่ายดิจิตัลบรอดแคสเพิ่มขึ้นมากกว่า 9%
“การทำดิจิตัลทีวีจำเป็นต้องทำโครงข่ายให้ครอบครุมทั่วภูมิภาคเพื่อรองรับฐานผู้รับชมทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ในส่วนของดิจิตัลบรอดแคสมากกว่า 9%ในปีนี้"นายกรัณย์พล กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯยังจะทยอยรับรู้รายได้จากงานวางโครงข่ายการสื่อสารความเร็วสูงทั่วประเทศให้กับ บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง(CTH) จำนวน30-40 ล้านบาท จากมูลค่าสัญญาทั้งหมด 142 ล้านบาท โดยเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน ก.พ.56
นายกรัณย์พล กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ประมาณ 600 ล้านบาทมาจากกระแสเงินสดของบริษัทและเงินกู้จากสถาบันการเงิน โดยบริษัทฯจะนำเงินดังกล่าวไปขยายโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วเพิ่มอีก 1 พันวงจร เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น จากที่ปัจจุบันการใช้ data center มีแนวโน้มการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนั้นก็จะปรับปรุงโครงข่ายที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาซอฟต์แวร์ไอพีทีวี เพื่อให้ผู้ผลิตคอนเทนท์มีช่องทางในการเสนอผลงานผ่านทาง PC แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน และยังศึกษาการเชื่อมโยงโครงข่ายไปยังประเทศพม่าผ่านทาง อ.แม่สอด จ.ตาก โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้สำเร็จภายในปี 56 นี้ รวมทั้งบริษัทฯอยู่ระหว่างหาพื้นที่เพื่อเพิ่มจุดติดตั้ง wifi hotspot ให้กับลูกค้ามากขึ้นจากเดิมที่มีอยู่บริเวณรถไฟฟ้า BTS