บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไซแมท เทคโนโลยี(SIMAT)เพื่อคาดหวังการเติบโตของกำไรในระยะยาว มองเป็นหุ้นเติบโตสูง ประเด็นสำคัญการลงทุนในหุ้น SIMAT อยู่ที่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในปี 2557 ที่กำไรสุทธิจะยกระดับขึ้นกว่า 3 เท่าตัว จาก 102 ล้านบาทในปี 2556 เป็น 326 ล้านบาทในปี 2557 เติบโตถึง 219% YoY โดยประเมินการเติบโตของกำไรต่อปีตลอด 3 ปี ข้างหน้าที่ 77% CAGR (2555 — 2558) อิง PEG 2556 — 2557 ที่เพียง 0.4 เท่า ได้ราคาเป้าหมายตลอด 12 เดือนข้างหน้าที่ 18.90 บาท แต่หากพิจารณาเพียงผลประกอบการปี 2557 อย่างเดียวราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 28.70 บาท
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิของ SIMAT ปี 2557 ที่ 326 ล้านบาท โตแรงถึง 219% YoY เนื่องจาก 1) ธุรกิจเดิมยังเติบโตต่อเนื่องตามการขยายสาขาและการสั่งซ้ำของลูกค้า เช่น Tesco lotus และ Minor group 2) ธุรกิจ FTTx ในเชียงใหม่ และนครราชสีมาจะเริ่มทำกำไรได้โดดเด่น และจะกลายเป็นธุรกิจหลักที่สร้างกำไรให้กับ SIMAT ในปี 2557 เป็นต้นไป 3) การรวมงบการเงินของบริษัทที่อยู่ระหว่างการทำ M&A เต็มปีเป็นปีแรก เป็นผลให้เราปรับกำไรปี 2557 ขึ้น 55% เป็น 326 ล้านบาท
ขณะที่ยังมีประเด็นที่เป็น Catalyst อีกอย่างน้อย 2 ประเด็น คือ 1) โครงการ Sky frog ที่คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญากับผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศในการร่วมกันบริหารจัดการการขายระบบนี้ ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการของเรา และ 2) ด้วยทุนจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นเป็น 352 ล้านหุ้น และสภาพคล่องหุ้นในตลาดเพิ่มขึ้นทำให้มีโอกาสที่อาจยกระดับขึ้นไปซื้อขายในตลาด SET ได้ ซึ่งจะเพิ่มความน่าสนใจลงทุนต่อนักลงทุนในวงกว้างมากขึ้น
ส่วนกำไรปี 2556 เติบโต แต่ EPS ลดลงเพราะ Dilution โดยคาดกำไรสุทธิปี 2556 ที่ 102 ล้านบาทเติบโต 36% YoY เป็น 102 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการขยายสาขาของลูกค้าในกลุ่มค้าปลีกเพื่อรองรับการเปิด AEC ในอนาคต การรวมรายได้ของบริษัทที่อยู่ระหว่างการทำ M&A ในช่วง 2H56 ขณะที่คาดผลขาดทุนจากโครงการ FTTx ในปีแรกของการให้บริการที่ราว 13 ล้านบาท (EBIT) แต่อย่างไรก็ตามผลของการจ่ายหุ้นปันผล การใช้สิทธิ์ของ SIMAT-W1 และการเพิ่มทุน General mandate ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 92% เป็น 352 ล้านหุ้นจาก 183 ล้านหุ้น ส่งผลให้ต่อหุ้นลดลง 29.4% YoY เป็น 0.29 บาท แต่สาระสำคัญอยู่ที่การเติบโตครั้งสำคัญในปี 2557