นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ ARROW กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนรวมปีนี้ราว 50 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างโรงงานเพิ่มเติมขนาด 2,800 ตารางเมตร เพื่อรองรับเครื่องจักรที่จะขยายกำลังการผลิตท่อที่ใช้ในการก่อสร้างและท่อลมปรับอากาศ ซึ่งในส่วนนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าสามารถดำเนินการผลิตได้ในไตรมาส 4/56
นอกจากนั้น ยังมีการขยายในส่วนของเครื่องจักรผลิตท่อเหล็กอ่อนร้อยสายไฟอีก 2 สายการผลิตในโรงงานเดิม คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ท่อร้อยสายไฟชนิดกันน้ำ และท่อก่อสร้างที่มีการเติบโตสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันใช้กำลังการผลิตใน 2 สายการผลิตแล้ว 90% จึงมีความจำเป็นในการลงทุนซื้อเครื่องจักรมาเพิ่ม โดยใช้เงินลงทุนซื้อเครื่องจักร 10 ล้านบาท และสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงไตรมาส 3/56
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/56 คาดว่ารายได้เติบโตขึ้นมากกว่าไตรมาส 1/55 โดยเฉพาะยอดขายในประเทศมีการเติบโตสูงขึ้น โดยเป็นผลมาจากนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทำให้อุตสาหกรรมก่อสร้างมีการเติบโตขึ้น 12-13% ซึ่งส่งผลดีต่อยอดขายท่อก่อสร้างและท่อร้อยสายของบริษัทมียอดขายที่เติบโตขึ้น
สำหรับตลาดต่างประเทศได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็ง โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่บริษัทก็ได้มีการชะลอการส่งออกใน 2 ทวีป และหันมารุกตลาดในอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ เวียดนาม และพม่า เพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบค่าเงินบาท
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนการส่งออกต่างประเทศเป็น 15-20% จากปี 55 ที่มีสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 12% โดยมาจากการที่บริษัทมีการรุกตลาดพม่าที่มีความต้องการใช้ท่อก่อสร้างและท่อร้อยสายมากขึ้น จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของบริษัทในปี 56 ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะรักษาอัตรากำไรสุทธิในปี 56 อยู่ที่ 10-12% จากปี 55 อยู่ที่ 11.85% พร้อมตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่ 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% จากปี 55 ที่มีรายได้รวม 775.77 ล้านบาท