ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนราว 4-5 พันล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมทั้งในโรงงานกระดาษและขวดแก้ว พร้อมทั้งศึกษาการตั้งโรงงานใหม่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในครึ่งปีแรก
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ คาดว่ายอดขายของบริษัทในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 15% หลังเข้าซื้อกิจการ Thai An ในเวียดนามเพิ่มเข้ามา และตั้งเป้าในช่วง 3-5 ปีรายได้รวมจะเติบโตเฉลี่ยสูงกว่าปีละ 15% ด้วย ซึ่งในไตรมาส 1/56 ยอดขายมีแนวโน้มเติบโตได้ถึง 20% ซึ่งขอดูความชัดเจนในเดือนมี.ค.ก่อน และในไตรมาส 2-3/56 เป็นต้นไปคาดว่าจะยอดขายเติบโตก้าวกระโดดหลังรับรู้รายได้ Thai An เข้ามา ซึ่งปกติจะมีรายได้ปีละกว่า 3 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อธุรกิจค้าปลีกที่ประเทศเวียดนามอีก 1 รายคาดว่าจะสรุปผลการเจรจาได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ ซึ่งขณะนี้สภาพเศรษฐกิจของเวียดนามเอื้ออำนวยมากขึ้น โดยเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี และอัตราดอกเบี้ยก็ปรับลดลง
นายอัศวิน กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ามียอดขายในเวียดนามเกิน 10,000 ล้านบาทในปี 57 จากปีก่อนที่ทำรายได้ราว 2,000 ล้านบาท และปีนี้ก็จะมียอดขายจาก Thai An เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะทำให้ภายใน 5 ปีบริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50%
"ปี 2007 BJC มียอดขายเกือบ 20,000 ล้านบาท ซึ่งใช้ระยะเวลา 120 ปีทำธุรกิจในไทย แต่พอไปเวียดนามคาดในระยะเวลา 4 ปี (เมื่อถึงปี 57) ยอดขายน่าจะเกิน 10,000 ล้านบาทเฉพาะในเวียดนาม และยังมีโอกาสอีกมากในเวียดนาม"นายอัศวิน กล่าว
สำหรับธุรกิจในเวียดนามขณะนี้มีบริษัท Thaicorp International และบริษัท Thai An ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาการควบรวมกิจการกัน ซึ่งอยู่ในแผนงานของบริษัทคาดจะสรุปใน 3-6 เดือน เพราะทั้ง 2 บริษัทเป็นศูนย์กระจายสินค้าในเวียดนามเหมือนกัน
นายอัศวิน กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนรวมในปีนี้กว่า 4-5 พันล้านบาทสำหรับซื้อเครื่องจักร ขยายกำลังการผลิตใหม่ในธุรกิจกระดาษทิชชู และขวดแก้ว โดยแบ่งเป็นสร้างโรงงานกระดาษทิชชูเพิ่มอีก 1 แห่ง งบราว 1,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะสร้างในไทยหรือเวียดนาม อีกส่วนสำหรับย้ายโรงงานผลิตขวดแก้วจากราษฎร์บูรณะไปที่สระบุรีและเพิ่มกำลังการผลิต
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานนมของดาน่อน ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับพันธมิตร คาดว่าจะใช้เงินไม่มากและใช้เวลาประมาณ 15 เดือน