(เพิ่มเติม) PLE คาดรายได้รวมปี 56 ทำนิวไฮแตะ 1 หมื่นลบ.พลิกเป็นมีกำไรสุทธิ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 28, 2013 14:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง(PLE) คาดว่ารายได้รวมในปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่แตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 6 พันล้านบาท และมั่นใจว่าผลประกอบการในปีนี้จะพลิกเป็นมีกำไรสุทธิ หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวโครงการโซโห และคาดว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลจะเริ่มมีกำไร ประกอบกับขณะนี้บริษัทมีงานในมือ(Backlog)แล้ว 8 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 6 พันล้านบาท และบริษัทยังจะยื่นเสนองานใหม่เพิ่มอีกไม่เกิน 5 พันล้านบาท ตามข้อจำกัดด้านแรงงาน

บริษัทยังสนใจเข้าประมูลเช่าที่ดิน รร.เตรียมทหาร ในส่วนที่นอกเหนือจากที่เคยเป็นสวนลุมไนท์บาร์ซา หากการเปิดประมูลขยายเวลาออกไปจากที่จะสิ้นสุดการประมูลในวันพรุ่งนี้ พร้อมกันนั้น บริษัทยังเตรียมจับมือกับพันธมิตรจากจีนเข้าประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ

นายเสวก ศรีสุชาติ ประธานกรรมการบริหาร PLE กล่าวว่า ในปี 56 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ทำสถิติสูงสุดแตะ 1 หมื่นล้านบาท และมีผลประกอบการเป็นกำไรได้ เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างราว 7-8 พันล้านบาท รวมถึงการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งปีนี้น่าจะมีกำไรแล้ว โดยจะมีรายได้ราว 250 ล้านบาท/ปี หลังจากปีก่อนประสบผลขาดทุนเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแกลบมีราคาสูง แต่ปีนี้ราคาแกลบมีแนวโน้มลดลงแล้ว ส่วนโครงการศูนย์แฟชั่นค้าส่ง"โซโห"ได้เปิดบริการแล้ว หลังจากประสบปัญหาความล่าช้า คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 300 ล้านบาท/เดือน หรือไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท/ปี

"ปีก่อนในส่วนงานก่อสร้างเรามีกำไร 126 ล้านบาท แต่ขาดทุนจากโครงการโซโห ที่เปิดล่าช้า 200 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าที่ยังขาดทุนเพราะต้นทุนสูง แต่ปีนี้มั่นใจว่าจะเห็นกำไรแน่นอน"นายเสวก กล่าว

บริษัทยังมีแผนจะเปิดโครงการศูนย์การค้า"โซโห"แห่งที่ 2-3 โดยมองทำเลที่ รร.เตรียมทหารเดิม(สวนลุมไนท์บาร์ซา) โดยหากมีการขยายเวลาการเข้าประมูลจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 29 มี.ค.56 บริษัทก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลด้วย เนื่องจากเป็นทำเลที่น่าสนใจในการพัฒนาโครงการ เบื้องต้นคาดว่าอาจใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท วางแผนพัฒนาโครงการรองรับลูกค้าอาเซียน เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม B+ ขึ้นไป แต่ไม่เน้นการพัฒนาโครงการเพื่อแข่งกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่

ในปีนี้บริษัทยังเตรียมร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศจีน 2-3 ราย เพื่อเข้าประมูลงานโครงการภาครัฐภายใต้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ทั้งระบบราง และระบบคมนาคมขนส่ง โดยพันธมิตรจากจีนถือว่ามีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างทางรถไฟ และด้านอี่นๆ ขณะเดียวกันการเข้ามาเป็นพันธมิตรจะต้องเกื้อหนุนธุรกิจ ทั้งด้านเทคโนโลยี ด้านสต็อควัสดุก่อสร้าง การควบคุมคุณภาพงาน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีข้อจำกัดในด้านการหาแรงงานฝีมือซึ่งขาดแคลนมาก

"หากจะทำจริงก็ต้องหาผู้ร่วมทุน เพราะเนื้อที่ค่อนข้างมาก น่าจะสามารถพัฒนาโครงการได้หลากหลาย ตอนนี้ก็มีแผนไว้แล้วแต่ไม่สามารถบอกได้...การเลือกพันธมิตรจากจีนซึ่งมีเข้ามาเสนอตัวหลายราย เพราะผมคุยภาษาจีนพอได้น่าจะคุยกันรู้เรื่อง มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน รวมถึงเงินทุน และมีผลงานเป็นที่ยอมรับ" นายเสวก กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทมี backlog ราว 8 พันล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปีนี้ 6 พันล้านบาท และตั้งแต่ไตรมาส 2/56 จะเตรียมเข้าประมูลงานก่อสร้างเพิ่มเติม ทั้งโครงการเอกชนและภาครัฐ เช่น เรือนจำ ศูนย์ราชการ โรงพยาบาล แต่จะรับงานได้เพียง 5 พันล้านบาท เพราะหากรับงานมากอาจไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด เนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงาน

บริษัทยังสนใจที่จะรับงานก่อสร้างในประเทศลาวและพม่า ซึ่งมีโครงการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ในประเทศพม่ายังมีข้อจำกัดด้านกฎหมายการลงทุนที่ยังไม่นิ่ง ส่วนในประเทศลาว ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า และโรงแรม อย่างไรก็ตามการรับงานใน 2 ประเทศยังอยู่ในการขั้นตอนการเจรจา และพิจารณาเงื่อนไข ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ