โบรกฯเชียร์"ซื้อ"KTBเล็งปีนี้โตหลังเน้นสินเชื่อเอกชน-ได้ประโยชน์งานรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 29, 2013 15:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้องเชียร์"ซื้อ"ธนาคารกรุงไทย(KTB)มองผลประกอบการปีนี้จะเติบโตดีตามสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโต 8-12% มีตัวแปรสำคัญจากการประมูลงานของภาครัฐฯและเศรษฐกิจไทยที่เติบโตได้มากกว่า 5%

สำหรับ NIM ปีนี้ไม่กังวลมากนัก ปีนี้คาดว่าจะทรงตัวที่ 2.9-3% จากปี 55 อยู่ที่ 2.92% หลังจากหันมาเน้นสินเชื่อภาคเอกชนมากขึ้น และสินเชื่อ SME ก็มีการเติบโตดีด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาครัฐมีแผนจะเปิดประมูลงานค่อนข้างมาก แต่กว่าจะเรียบร้อยได้ก็คงเป็นปลายปี แต่หากสินเชื่อที่เติบโตมากในปีนี้เป็นของภาครัฐ ตัวเลข NIM ก็อาจไม่ดีนัก

ด้านตัวเลข NPL ปีที่ผ่านมาลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีการตั้งสำรองหนี้ฯมากแล้วในไตรมาส 4/55 อย่างไรก็ดี KTB อาจมีการตั้งสำรองอีกในปี แต่ไม่น่ากังวลเพราะเป็นการตั้งสำรองเพื่อความแข็งแกร่งขึ้น อีกทั้ง ได้รับประโยชน์จากภาษีนิติบุคคลที่ลดลงด้วย

ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิในปี 56 ในช่วง 3.15-3.56 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/56 จะออกมาดีมาก เนื่องจากไตรมาส 4/55 มีการตั้งสำรองฯมาก และสินเชื่อก็เติบโตดี

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ    ซื้อ            37.00
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)   ซื้อ            32.00
          บล.ไทยพาณิชย์          ซื้อ            32.00
          บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ    ซื้อ            30.00
          บล.เอเชีย พลัส         ซื้อ            27.00
          บล.กรุงศรี           เก็งกำไร         25.00(เตรียมปรับประมาณการเพิ่มขึ้น)

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า เตรียมปรับเพิ่มประมาณการกำไร และมูลค่าพื้นฐาน KTB เนื่องจากสินเชื่อในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเติบโต 3.5% ถือว่าเติบโตได้สูงสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ โดยคาดว่าสินเชื่อในปีนี้จะเติบโต 8% แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาเติบโตขึ้นมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อขึ้นไปอีก ซึ่งขณะนี้ก็มองว่าปีนี้น่าจะเติบโตได้มากกว่า 8% โดยมีตัวแปรสำคัญจากการประมูลงานของภาครัฐฯ และเศรษฐกิจไทยที่เติบโตได้มากกว่า 5%

สำหรับ NIM ปีนี้คาดว่าจะทรงตัวที่ 2.9-3% จากปี 55 อยู่ที่ 2.9% เพราะปีนี้ KTB ได้หันมาเน้นการให้สินเชื่อในภาคธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อ SME ซึ่งจะทำให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น แต่ถ้าสินเชื่อที่เติบโตมากในปีนี้เป็นของภาครัฐฯมาก ตัวเลข NIM ก็จะไม่ดีเท่าไร เพราะดอกเบี้ยไม่สูง แต่จะได้ในแง่ของวอลุ่ม

ด้านตัวเลข NPL ปีนี้ไม่มีปัญหา เพราะปีที่ผ่านมาลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีการตั้งสำรองหนี้ฯมากแล้วในไตรมาส 4/55 โดย KTB ตอนนี้ได้ตั้งสำรองฯต่อหนี้เสียถึง 93% ซึ่งถือว่ามากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนที่ตั้งกว่า 40% เท่านั้น อย่างไรก็ดี KTB อาจมีการตั้งสำรองพิเศษในปีนี้ก็ได้ แต่ก็ไม่น่ากังวลเพราะจะเป็นการตั้งสำรองเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งขึ้น

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 56 ไว้ที่ 31,700 ล้านบาท เติบโต 35% จากปีที่แล้ว สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มแบงก์ที่คาดว่าปีนี้จะมีการเติบโตกำไรเฉลี่ย 25.5%

ด้าน น.ส.อุษณีย์ ลิ่วรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส มองว่า ราคาหุ้น KTB ยังถูกอยู่ และผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะออกมาดีด้วย จากการเติบโตของสินเชื่อ โดยปี 56 คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตประมาณ 12% ซึ่งสูงกว่าที่ทาง KTB คาดว่าจะเติบโตสินเชื่อ 6-7% เท่านั้น

ทั้งนี้ ตัวเลข NIM ของ KTB ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.99% ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว(2555)ที่ NIM มีอยู่ 2.92% ทั้งนี้ เป็นเพราะสินเชื่อของภาครัฐฯที่น่าจะลดลง เนื่องจากทาง KTB จะหันมาเน้นสินเชื่อภาคเอกชนมากขึ้น และสินเชื่อ SME ก็มีการเติบโตดีด้วย อย่างไรก็ดีก็ยังไม่แน่เพราะการประมูลงานของภาครัฐฯมีเข้ามามาก แต่กว่าที่จะเรียบร้อยได้ก็คงจะปลายปี

ด้านตัวเลข NPL ไม่น่าเป็นกังวล เนื่องจากไตรมาส 4/55 ทาง KTB ได้มีกาตั้งสำรองฯไว้มากแล้ว ปีนี้จึงคาดว่าจะตั้งสำรองฯน้อย อีกทั้ง KTB ยังได้รับประโยชน์จากภาษีนิติบุคคลที่ลดลงด้วย โดยปีนี้ภาษีนิติบุคคลเหลือแค่ 20% จากเดิม 23% ลดลงไป 3% ถือว่าได้ประโยชน์อยู่มากเหมือนกัน

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/56 จะออกมาดีมาก เนื่องจากไตรมาส 4/55 ได้มีการตั้งสำรองฯมาก พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 56 ที่ 3.15 หมื่นล้านบาท เติบโตดีมากถึง 34%

ด้านบล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น KTB ปรับเพิ่มราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 32 บาท จากการที่มองว่า KTB จะเป็นธนาคารที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล

ส่วนผลประกอบการ 1Q56 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้ง y-y และ q-q ถึงแม้จะคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ KTB ใน 1Q56 มีแนวโน้มที่จะออกตัวลง เนื่องจากสินเชื่อภาครัฐมีการเติบโตกว่าสินเชื่อประเภทอื่น

แต่อย่างไรก็ตามการที่สินเชื่อยังคงเติบโตนั้นทำให้คาดว่าผลประกอบการ 1Q56 มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น y-y และจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับ 4Q55 ที่ KTB มีกำไรสุทธิเพียง 931 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการตั้งสำรองจำนวนมากถึง 11 พันล้านบาท โดยใน 1Q56 คาดว่า KTB จะมีเพียงการตั้งสำรองปกติที่จะมีการตั้งไตรมาสละประมาณ 1.5 พันล้านบาท

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 56 ไว้ที่ 35,567 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 23,566 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ