BWG เดินหน้าลุยธุรกิจผลิตเชื้อเพลิงทดแทนจากกากอุตฯคาดรับรู้ฯ Q2/56

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 1, 2013 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ พร้อมต่อยอดธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรม ไปสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนจากกากอุตสาหกรรม (Refuse Derived Fuel Project) โดยการคัดแยกและแปรรูปกากอุตสาหกรรมที่บริษัทฯ รับเข้ามากำจัด ได้แก่ กากอุตสาหกรรมประเภทเศษหนัง กระดาษ พลาสติก บรรจุภัณฑ์ เศษผ้าปนเปื้อน, วัสดุดูดซับ ยาง วัสดุผสม ไปเป็นเชื้อเพลิงแข็ง (RDF) จำหน่ายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ

“โครงการนี้เราเรียกว่า RDF โดย BWG สามารถรับประโยชน์ได้ถึง 2 ชั้น คือ รับค่ากำจัดกากอุตสาหกรรมจากโรงงานเจ้าของกากอุตสาหกรรม และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายเชื้อเพลิงแข็งให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการเชื้อเพลิงทดแทนด้วย เนื่องจากเชื้อเพลิงที่เราผลิตได้มีราคาประมาณ 1,000 — 1,500 บาท/ตัน เท่านั้น ต่ำกว่า เชื้อเพลิงเช่น ถ่านหิน ที่โรงงานอุตสาหกรรมใช้ในปัจจุบัน 1-2 เท่าตัว ในขณะที่ค่าความร้อนที่ได้รับไม่ต่างกันมาก ซึ่งจากการสำรวจตลาดพบว่าเชื้อเพลิงแข็งของบริษัทฯได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโรงงานที่มีเตาเผาที่ต้องใช้เชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก" นายสุวัฒน์ กล่าว

โครงการ RDF จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกมีกำลังการผลิตประมาณ 250 ตัน/วัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องการผลิตได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2556 และรับรู้รายได้ในไตรมาสเดียวกัน ส่วนโครงการในเฟส 2 จะเริ่มได้ในช่วงปลายปี 2556 ซึ่งคาดว่า จะมีกำลังการผลิตทั้ง 2 เฟสรวมกันประมาณ 1,000 ตัน/วัน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนอกเหนือจากการเติบโตของธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมแบบฝังกลบที่คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดย บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้จากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 30 จากรายได้ 1,060 ล้านบาท ในปี 2555

“หลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกฟ้อง ในคดีที่มีกลุ่มบุคคลฟ้องให้ปิดกิจการและยึดใบอนุญาตของบริษัทฯ ซึ่งถือว่าคดีนี้ถึงที่สุด ทำให้ความเสี่ยงทางธุรกิจที่นักลงทุนเคยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ หมดไปทันที และเชื่อว่าหลังจากนี้นักลงทุนจะเชื่อมั่นและมั่นใจกับการลงทุนในบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีนมากยิ่งขึ้น และหลังจากนี้เราจะมีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องให้เติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้น เนื่องจากที่ผ่านมาเราได้ใช้เวลาไปกับการพิสูจน์ความจริงเพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างชัด จนทำให้ต้องชะลอการขยายธุรกิจในบางธุรกิจออกไป แต่ขณะนี้เราพร้อมแล้วที่จะขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเต็มกำลังอีกครั้ง" นายสุวัฒน์กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ