ตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ฟิกซ์ อินคัม โน้ต 3 เดือน บี (KFIN3MB) จะเข้าลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย ตราสารหนี้ Banco Bradesco S.A และตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ BBB+ และ BBB- ตามลำดับ ทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ Safeway Inc., ประเทศสหรัฐอเมริกา (BBB/S&P) ตั๋วแลกเงิน บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส (A+/TRIS) ร่วมด้วยเงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี (BBB/Fitch) และเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) ด้านกองทุนเปิดเค ฟิกซ์ อินคัม โน้ต 6 เดือน บี (KFIN6MB) จะลงทุนในตราสารหนี้ Banco ABC Brasil S.A. และตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. ประเทศบราซิล ซึ่งทั้งคู่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB- (Fitch) พร้อมด้วย Commercial paper ที่รับประกันโดย Sberbank, ประเทศรัสเซีย (BBB/Fitch) ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต (A+(tha)/Fitch) และส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี และเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊าเช่นกัน
ส่วนกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศอายุประมาณ 1 ปี ที่จะเสนอขายในสัปดาห์นี้ ยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทน 3.20% เท่ากับกองทุนล่าสุดที่เสนอขายไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีเอ็น (KFF1YBN) จะลงทุนในตราสารหนี้ Standard Bank of South Africa ประเทศแอฟริกาใต้ (BBB+/Fitch) Commercial paper ที่รับประกันโดย Sberbank, ประเทศรัสเซีย(BBB/Fitch) ตราสารหนี้ Banco Santander S.A., ประเทศบราซิล (BBB/Fitch) ร่วมด้วยเงินฝาก First Gulf Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(A+/Fitch) และเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch)
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ. กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ซีบี (KPPTF3MCB) เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 80% ในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีที่ 2.60% ต่อปี