สินทรัพย์ในกองตราสารหนี้ บางส่วนจะลงทุนเป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศและในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่ลงทุนได้ขึ้นไป สำหรับการลงทุน 3 เดือน เป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากกองก่อนหน้านี้ FAM FIPR3M6 เป็นกองทุน specific fund โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และ/หรือ เงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD หรือ CNY, HKD กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร CIMB Niaga, Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ธนาคาร CBQ, Qatar, ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991), ตราสารหนี้ บมจ.บัตรกรุงไทย, ตราสารหนี้ บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง, หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ ขึ้นไป ตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับมุมมองการลงทุนก่อนคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทยจะประชุมในวันที่ 3 เม.ย. 56 คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75 % แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าจนหลุดกรอบ 29.50 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ และตัวเลขการส่งออกล่าสุด จะแย่กว่าที่คิด แต่เศรษฐกิจในประเทศยังคงขับเคลื่อนได้ดีอยู่ ดังจะเห็นจาก ธปท. เตรียมปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ เพิ่มจากเดิมที่ 4.9 % ดังนั้นการคงดอกเบี้ยนโยบายน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยต้องดูแนวโน้มอีกทีในครึ่งปีหลัง เพราะขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนภาครัฐ