สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A LB196A และ LB137A (รุ่นอายุ 4.2 ปี 6.2 ปี และ 3 เดือนตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6,724 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF13NA) มูลค่า 204 ล้านบาท
2. บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (PTTC153A) มูลค่า 116 ล้านบาท
3. บริษัท เหทราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (HEMRAJ217A) มูลค่า 20 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 341 ล้านบาท หรือคิดเป็น 81% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 6,230 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสาร ขายสุทธิ 1,054 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 57 ล้านบาท
Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 bp. ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่จับตาผลการประชุมกนง. ในวันที่ 3 เมษายน นี้อย่างใกล้ชิด ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามตลาดคาดการณ์หรือไม่ใน วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานอัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนมีนาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาอาหารสดที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิเท่ากับ 57 ล้านบาท