(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวน-อาจปรับตัวลง ยังไร้ปัจจัยใหม่สนับสนุน

ตฃาดยังติดตามประเด็นเกี่ยวกับความชัดเจนของการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)และธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ส่วนปัจจัยภายในประเทศต้องติดตามผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 3 เม.ย. และการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ส่วนภาวะตลาดภูมิภาคเช้านี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงกว่า 100 จุด ต้องติดตามว่าเป็นการปรับตัวลงด้วยเหตุผลใด มาจากผลกระทบปัญหาคาบสมุทรเกาหลีหรือไม่

วันนี้ให้คำแนะนำควรลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นเหลือเพียง 30% โดยเน้นเก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยบวกอย่างชัดเจน

พร้อมให้กรอบแกว่งตัวของดัชนีไว้ที่แนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,569 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(1 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,572.85 จุด ลดลง 5.69 จุด(-0.04%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,562.17 จุด ลดลง 7.02 จุด(-0.45%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,239.17 จุด ลดลง 28.35 จุด(-0.87%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 83.45 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.50 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 95.70 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 2.08 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 4.81 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 1.63 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.22 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 1.70 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(1 เม.ย.)ที่ 1,549.55 จุด ลดลง 11.51 จุด(-0.74%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 892.44 ล้านบาท เมื่อ 1 เม.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 97.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.16 ดอลลลาร์หรือ -0.16%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(1 เม.ย.)ที่ 6.0 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.30/32 จับตาประชุม กนง.มองกรอบวันนี้ 29.25-29.35
• "พงษ์ศักดิ์"รับวิกฤติไฟฟ้าลามถึงช่วง9-10 เม.ย. เหตุโรงงานกลับมาผลิตปกติประกอบกับอากาศร้อนจัด ขณะที่สำรองไฟมีเพียง 1,440 เมกะวัตต์ วอนประชาชนประหยัดไฟ เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน ปตท.ตั้งศูนย์ฉุกเฉินรับมือวิกฤติไฟ 5-14 เม.ย. สั่งสำรองน้ำมันเตา-ดีเซลและแอลเอ็นจี พร้อมสำรองเอ็นจีวีในท่อภาคตะวันตก มั่นใจไม่กระทบต่อภาคอุตสาหกรรม-ขนส่ง ผู้ว่า กฟผ.ชี้ไทยกำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤติไฟฟ้าราคาแพง หากไม่ปรับโครงสร้างเชื้อเพลิง
• นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กล่าวว่า ธปท.กำลังติดตามดูสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคนที่กู้ซื้อบ้านหลังที่สองและหลังที่สาม เพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาประกอบการตัดสินใจในการดำเนินนโยบาย
• "วัชรี วิมุกตายน" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ(เงินเฟ้อ)เดือน มี.ค. 2556 เท่ากับ 104.73 สูงขึ้น 2.69% เทียบกับ มี.ค. 2555 สูงขึ้นในอัตราชะลอตัวลงในรอบปีนี้ที่เงินเฟ้อขยายตัวสูงกว่า 3% และสูงขึ้น 0.07% เทียบกับ ก.พ. 2556 ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.) 2556 สูงขึ้น 3.09% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
• ธปท.เล็งฟันแบงก์เสนอแคมเปญดอกเบี้ย บ้าน 0% พรางตาผู้กู้ ระบุแอบเก็บค่าธรรมเนียมยุบยิบ ชี้ การแข่งขันเริ่มรุนแรง ส่งผลแบงก์พยายามหลอกล่อลูกค้า เตรียมสั่งแบงก์แจงต้นทุนแท้จริงให้ลูกค้ารับทราบเพื่อสร้างความเป็นธรรม พร้อมเกาะติด สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ระบุยอดทิ้งดาวน์ยังน้อย สัญญาณเอ็นพีแอลไม่ชัด แต่ห่วงหลังได้รับสิทธิภาษีคืน คนอาจทิ้งดาวน์กันมากขึ้น เผยยังติดตามใกล้ชิด ขณะที่คุณภาพสินเชื่อโดยรวมยังดี เอ็นพีแอลไม่เพิ่ม
• คลังเตรียมชงครม.ไฟเขียวแก้กฎหมาย กบข.เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่สมาชิกภายในเดือนนี้ อ้างมั่นใจไม่สะเทือนภาระงบประมาณรัฐ แม้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกจำนวน 700,000 รายใช้สิทธิ์เลือกถอนตัวจากการเป็นสมาชิก คาด 3 ใน 4 ลาออกจากกบข.เพราะไม่พอใจผลตอบแทน ต่ำกว่าระบบเดิม
• นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ คาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม คือ 2.75% เนื่องจากไม่มีความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ เนื่องจากสถานการณ์ในรอบนี้ไม่มีแรงกดดันจากความเสี่ยงด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

*หุ้นเด่นวันนี้

• AH(เกียราตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 30.50 บาท มองหุ้นในกลุ่มยานยนต์ยังคงน่าสนใจในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 โดยเฉพาะ AH ที่ประเมินว่าผลประกอบการจะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในปี 2556 ที่ 887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% YoYโดยที่จะได้รับปัจจัยบวกจากการที่ ISUZU มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 60% นอกจากนี้ถ้าพิจารณาจากโอกาสที่จะได้รับค่าสินไหมประกันส่วนที่เหลือเข้ามาอีก 300-400 ล้านบาท มีความเป็นไปได้ที่กำไรสุทธิในปี 2556 อาจสูงกว่าที่คาดไว้ด้วย
• SIRI(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 5.85 บาท ราคาที่อ่อนตัวทำให้ส่วนต่างราคาสูงถึง 22% เป็นจังหวะดีในการสะสมหุ้น โดยมองยังโดดเด่นทั้งการสร้างยอดขายในปีนี้จากแผนการขยายตลาดไปต่างจังหวัดและการขยายฐานลูกค้าด้วยการเสนอสินค้าที่หลากหลายเหมาะเฉพาะกลุ่ม คาดว่ายอดขายและงานในมือจะยังเติบโตสูงในปีนี้ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ทำให้กำไรสุทธิจะเติบโตอีก 28% YoY เป็น 3.8 พันล้านบาท ส่วนระยะสั้นผลประกอบการ 1Q56 ยังเติบโตจากยอดขายกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท
• KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 30 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q56 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 9.8 พันล้านบาท +54% yoy และ +1,051% qoq จากสินเชื่อที่ขยายตัว +5% qoq โดยเป็นการเติบโตในทุกธุรกิจ ทั้งสินเชื่อภาครัฐ, Corporate, SMEs และ รายย่อย ด้วย Momentum ของผลประกอบการ 1Q56 ที่เติบโตสูง จึงยังคงประมาณการกำไรปี 2556 ที่ 36,076 ล้านบาท เติบโต +53.3% yoy และคาดการณ์กำไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 27.5% ซึ่งจะช่วยเร่ง ROE ให้เพิ่มขึ้นจาก 15.2% ในปี 55 เป็น 19.6% ในปี 2558
• BIGC(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 237 บาท เนื่องจากยังคงเป็นหุ้นที่โดดเด่นในกลุ่มผู้ประกอบการ Hypermarket ของไทย ด้วยแผนการขยายสาขาที่น่าสนใจ และเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้นและแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วของความเป็นเมือง (Urbanization Trend)