"รายได้ในปีนี้เรามีการปรับลดจากเป้ารายได้เดิมที่ตั้งไว้ 600 ล้านบาท เนื่องจากเราอยากค่อยๆโตไปทีละ step ทั้งที่ตลาดในประเทศไทยมีศักยภาพและเติบโตได้ดี แต่เราต้องการให้บริษัทมีความราบรื่นในการดำเนินงานระยะยาวและบริษัทมีความมั่นคง"มร.ซอง นัก เจ กล่าว
สำหรับปัจจัยสนับสนุนรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายมาจากจุดเด่นทางด้านการบริการที่แตกต่างจากทีวีช้อปปิ้งรายอื่น เช่น ส่งฟรีทั่วไทย ซึ่ง"โอ ช้อปปิ้ง"เริ่มทำเป็นรายแรก และการรับของก่อนจ่ายที่สามารถตอบโจทย์ความพึงพอใจในสินค้าและสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้า
แม้ว่ารายได้ที่ทำได้ 100 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกจะพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิม 140 ล้านบาท เนื่องจากกระแสตอบรับช่วง 6 เดือนแรกมาจากการประมาณการยอดขายที่ผิดพลาด บริษัทคิดว่าสินค้าขายดีจะอยู่ในโหมดเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องสำอางค์ แต่ปรากฎว่ากลับเป็นสินค้าเครื่องครัว ทำให้ต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการนำเสนอสินค้าประเภทอื่นใหม่ โดยมีการเล่าเรื่องและให้ความบันเทิงในตัวสินค้ามีมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ
ประกอบกับมีการสร้างความแตกต่างในการทำตลาดโดยใช้ศิลปินและดาราช่วยในการนำเสนอสินค้า โดยบริษัทใช้กลยุทธ์ Star Marketing โดยมี"เจี๊ยบ โสภิตนภา"เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ถือเป็นโฮมช้อปปิ้งรายแรกของไทย
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/56 บริษัทมียอดขายเกิน 100 ล้านบาทเล็กน้อยหลังจากการปรับกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าของบริษัทที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น