ทั้งนี้เป็นการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ในการเชื่อมโยงโครงข่ายขององค์กรผ่านระบบโครงข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำที่มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพของ กสท.ที่ช่วยทำให้ศูนย์กลางระบบการจัดการปิโตรเลียมบนฝั่ง สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ ฐานสนับสนุนการพัฒนาปิโตรเลียม จ.สงขลา และแท่นผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย สามารถติดต่อสื่อสารกันแบบ Real time เพื่อควบคุมดูแลกระบวนการสำรวจและผลิตที่มีความซับซ้อนบนแท่นผลิตรวมทั้งดูแลอุปกรณ์ภายในกระบวนการทั้งหมดและสภาวการณ์ด้านความปลอดภัยอย่างครอบคลุมและทั่วถึงโดยข้อมูลต่างๆจะส่งมาวิเคราะห์ที่ศูนย์กลางระบบบนฝั่งและสั่งการกลับแบบทางไกล (Remote controller) ทำให้สามารถแก้ปัญหาในกระบวนการสำรวจและผลิตได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
"ปัจจุบัน การผลิตก๊าซในอ่าวไทยมีข้อจำกัดมาก เราร่วมกันผลักดันโครงการนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยอมรับว่าโครงการนี้มีเสถียรภาพ ช่วยลดความสูญเสีย ถ้าไม่มีการสื่อสารทันท่วงที การป้องกันก็ช้า เราคิดว่าคุ้มค่าที่ลงทุน" นายสมชาย กล่าว
สำหรับแหล่งผลิตก๊าซของ PTTEP มี 3 แหล่ง ได้แก่ บงกชเหนือ บงกชใต้ อาทิตย์ มีกำลังผลิตประมาณ 1 พันล้านลบ.ฟุต/วัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในอ่าวไทย เช่นเดียวกับเชฟรอน จากที่มีการผลิตรวม 3 พันล้านลบ./วัน
นอกจากนี้ ได้ให้ กสท.ศึกษาการวางแนวโครงข่ายเคเบิลใยแก้วจากแหล่งซอติก้าในพม่า มายังสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ ทั้งนี้ คาดจะเริ่มผลิตในเดือน ธันวาคม 56 หรือ มกราคม 57