Thai DECIDE ASP Platform เป็นระบบที่ผ่านการรองรับจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยทางเซริซิสและพีดีวีได้นำเสนอการเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้มีความรวดเร็ว โดยนักลงทุนสามารถใช้ความสามารถของระบบ Thai DECIDE ASP Platform ในการซื้อขาย บริหารจัดการหลักทรัพย์ และบริหารความเสี่ยง
ความแตกต่างจากระบบเดิมนั้นอยู่ที่นักลงทุนสามารถซื้อขายได้หลายตลาดภายใน 1 หน้าต่าง ไม่ว่าจะเป็น SET , TFEX และตลาดอนุพันธ์ เป็นต้น ซึ่งระบบเดิมยังไม่สามารถซื้อขายได้ภายใน 1 หน้าต่าง แต่ต้องมีการแยกหน้าจอในการซื้อขายในแต่ละตลาด ขณะที่ระบบใหม่สามารถเลือกดูข้อมูลต่างๆได้ 100 column ซึ่งระบบเก่าดูข้อมูลได้แค่ 10 column ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานของเจ้าหน้าที่การตลาดได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งมีระบบ Multi Currency ที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงค่าเงินเมื่อมีการซื้อขายในตลาดต่างประเทศ มีการเก็บประวัติคำสั่งซื้อต่างๆของลูกค้า ซึ่งระบบเดิมมีแต่ประวัติคำสั่งซื้อที่เป็นแบบ Real Time นอกจากนั้น ระบบใหม่สามารถรองรับระบบปฏิบัติการได้หลาย platform อย่างเช่น วินโดว์ แม็คอินทอช แอนดรอยด์ ประกอบกับสามารถใช้งานได้ในอุปกรณ์อื่นนอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ เช่น แท๊บแล็ต เป็นต้น
นอกจากนี้ รูปแบบการใช้หน้าต่างของโปรแกรมการซื้อขายในรูปแบบใหม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของความต้องการของลูกค้า ไม่กำหนดรูปแบบตายตัวเหมือนกับระบบเดิม ทั้งนี้ระบบใหม่สามารถรองรับการซื้อขายในตลาดต่างๆได้ทั่วโลก สามารถเชื่อมต่อกับระบบทั่วโลกได้ทันทีเมื่อมีความพร้อม เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน(AEC)
นายพัชร สุระจรัส กรรมการบริหาร บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ระบบ Thai DECIDE ASP Platform เป็นระบบที่รองรับการลงทุนในอนาคต ซึ่งสามารถรองรับรูปแบบการทำงานของตลาดได้มากขึ้น รองรับการเชื่อมโยงการทำงานกับตลาดอื่นๆได้ทั่วโลก และมีเทคโนโลยีที่ใช้ที่มีความเป็นมาตรฐานสากล เพื่อรองรับการเปิด AEC โดยเบื้องต้นคาดว่าจะให้ลูกค้าสถาบันได้ทดลองใช้ก่อนและจะขยายต่อไปในลูกค้ากลุ่มอื่นๆ
ขณะที่นางกฤษณา หลิ่ว กรรมการบริหาร บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นในการทำงานของระบบ Thai DECIDE ASP Platform ที่มีความรวดเร็ว มีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย และมีความยืดหยุ่นมากกว่าระบบเดิม โดยระบบใหม่นี้สามารถปรับรูปแบบได้ตามความต้องการ รองรับการลงทุนในตลาดต่างประเทศได้อย่างหลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการลงทุนติดตั้งระบบใหม่มีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง แต่การที่บริษัทจับมือร่วมกับอีก 4 สถาบันทำให้ต้นทุนลดลง ทั้งนี้คาดว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม 2556 จะเริ่มให้ลูกค้าสถาบันได้ทดลองใช้ระบบใหม่ได้
ส่วนนายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า จากความร่วมมมือทั้ง 5 สถาบัน เชื่อว่าระบบ Thai DECIDE ASP Platform สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น และอำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อ อีกทั้งสามารถรองรับการทำซื้อขายได้ในทุกตลาด อีกทั้งในมุมมองของลูกค้าที่มีต่อบริษัทจะมีความเป็นมืออาชีพในการให้บริการมากขึ้น ซึ่งระบบใหม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างดี ประกอบกับรองรับการลงทุนในอนาคตที่จะขยายไปในต่างประเทศอีกด้วย
และในส่วนของผู้ถือหุ้นอย่างธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ได้มีการยอมรับเกี่ยวกับเงินลงทุนในระบบใหม่จะสามารถสร้างผลตอบแทนกลับมา และสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น(ROE)ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ในช่วงแรกบริษัทจะมีการใช้งานระบบใหม่กับระบบเดิมคู่ขนานไปก่อน เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพและจะมีการฝึกอบรมให้ความรู้พนักงานเพื่อรองรับการทำงานในระบบใหม่ อีกทั้งภายในกลางปีจะเริ่มให้ลูกค้าสถาบันได้เริ่มทดลองใช้ระบบ Thai DECIDE ASP Platform
ด้าน ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นในระบบ Thai DECIDE ASP Platform ที่เป็นอีกทางเลือกในการเปลี่ยนแปลงของบริษัท สามารถรองรับการซื้อขายทั้งในอาเซียนและทั่วโลก ทั้งนี้ระบบใหม่มีความรวดเร็วมากขึ้น มีตัวเลือกที่มีความหลากหลาย มีการเก็บข้อมูลย้อนหลัง ทำให้ลูกค้ามีความสะดวกในการใช้ระบบมากขึ้น
นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า จากสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระบบในการซื้อขาย เพื่อเป็นการตอบโจทย์นักลงทุน รวมทั้งความสามารถต่างเกี่ยวกับการจัดการคำสั่งซื้อต่างๆ สามารถแข่งขันในตลาดได้ ซึ่งระบบ Thai DECIDE ASP Platform ที่เป็นระบบใหม่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดี โดยระบบใหม่นี้มีฟีเจอร์และโปรดักส์ที่หลากหลาย เน้นความเป็นสากลมากขึ้น