หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 31.99 จุด หรือ 0.2% ที่ระดับ 14,582.34 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.3% ที่ 1,558.49 จุด
หุ้นแมคโดนัลด์ คอร์ป เพิ่มขึ้น 1.2% ในขณะที่หุ้นไมโครซอฟท์ลดลง 0.4% หลังแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท โดยระบุว่าการเปิดตัววินโดวส์ 8 เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัท
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ด้านคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติว่าจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกประเภท รวมถึงพันธบัตรอายุ 40 ปี พร้อมกับขยายโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุการไถ่ถอนในปัจจุบันไม่ถึง 3 ปี เป็น 7 ปี นอกจากนี้ บีโอเจจะซื้อกองทุน ETF วงเงิน 1 ล้านล้านเยนต่อปี และซื้อกองทุน REIT วงเงิน 3 หมื่นล้านเยนต่อปี พร้อมกับจะระงับ "หลักการธนบัตร (banknote principle)" ซึ่งเคยห้ามไม่ให้บีโอเจถือครองพันธบัตรรัฐบาลมากกว่ามูลค่าของธนบัตรที่หมุนเวียนในระบบ
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มี.ค.พุ่งขึ้น 28,000 ราย แตะระดับ 385,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะระดับ 350,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 357,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ พุ่งขึ้น 11,250 ราย แตะระดับ 354,250 ราย
ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 7.7%