(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้มีโอกาสปรับลงยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นตลาด

ส่วนปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามความคืบหน้า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการรอความ ชัดเจนอยู่ว่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ส่งผลให้ในช่วงนี้การเมืองจะยังไม่นิ่ง

วานนี้สาเหตุที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาจากความกังวลสถานการณ์ด้านการเมืองคลี่คลายลง หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ออกมาระบุว่าไม่พบว่านายกรัฐมนตรีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาดีดตัวกลับแรง แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยที่ยั่งยืน ส่งผลให้ในวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะปรับลงหลุดแนวรับที่ 1,500 จุดได้อีกครั้ง

ส่วนเรื่องของ Fund flow ต่างชาติยังมีการขายออกมาอย่างต่อเนื่อง และยังมีการทำ short ในตลาด Future จำนวนมากด้วย จึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนในช่วงนี้

พร้อมให้กรอบแกว่งไว้ที่ แนวรับ 1,495-1,500 จุด และแนวต้าน 1,535-1,540 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(4 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,606.11 จุด เพิ่มขึ้น 55.76 จุด(+0.38%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,559.98 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด(+0.40%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,224.98 จุด เพิ่มขึ้น 6.38 จุด(+0.20%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 246.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 106.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 11.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.27 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.45 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.15 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 6.40 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง

• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(4 เม.ย.)ที่ 1,528.46 จุด เพิ่มขึ้น 7.94 จุด(+0.52%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,074.46 ล้านบาท เมื่อ 4 เม.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 93.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.19 ดอลลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(4 เม.ย.)ที่ 5.4 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.25/27 หลังญี่ปุ่นเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
• "พลังงาน-กฟผ." การันตี 5-14 เม.ย. พ้นวิกฤติไฟดับ หลังจากพม่าเริ่มหยุดส่งก๊าซฯ ตั้งแต่เที่ยงวันนี้ ยันมีไฟฟ้าสำรองกว่า 1,600 เมกะวัตต์ ย้ำยังไม่คิดปรับแผนใหม่ช่วง 9-10 เม.ย.เหตุสำรองสูงกว่าปกติ พร้อมขอความร่วมมือ ส.อ.ท.ลดการใช้ไฟรอบสอง"พยุงศักดิ์"ขานรับส่งหนังสือถึงโรงงานอุตสาหกรรมลดใช้พลังงานทันที ปตท.สำรองก๊าซฯวันละ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต"ปิยสวัสดิ์"เชื่อไม่เกิดวิกฤติไฟดับ ระบุทุกหน่วยงานมีประสบการณ์รับมือภาวะวิกฤติมาแล้ว สามหน่วยงานการไฟฟ้าตั้งวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์
• นักวิเคราะห์ชี้บีโอเจ ประกาศมาตรการอัดฉีดมโหฬาร 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ แรงกว่าตลาดคาด เดิมพันเศรษฐกิจญี่ปุ่นพ้นเงินฝืดระบุเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมไทย เหตุค่าเงินเยนอ่อนค่า เป็นโอกาสนำเข้าเครื่องจักร
• มติ ป.ป.ช.เอกฉันท์ชี้ นายกรัฐมนตรีไม่จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ กรณีปล่อยกู้บริษัทที่สามีถือหุ้น 30 ล้าน ด้าน "ยิ่งลักษณ์" ระบุสบายใจ ยันไม่เกี่ยวกรณีนักลงทุน-ตลาดหลักทรัพย์ฯ หวั่นไหว เรียกร้องสื่อหาข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงก่อนเสนอข่าว ขณะที่ "สุรพงษ์" จี้ ป.ป.ช.แจงเหตุเก็บข้อมูลนายกฯ ไว้ตรวจสอบภายหลัง หวั่นถูกกลั่นแกล้ง
• นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เตรียมเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน)ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ภายในร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน2 ล้านล้านบาท ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาถึงความคุ้มค่าการลงทุนทั้ง 4 เส้นทางและพร้อมจะปรับเปลี่ยนเส้นทางหาก สศช.เห็นว่าไม่คุ้มทุน
• ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)กล่าวว่า การใช้หนี้จากการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ภายใน 7 ปี จะใช้หนี้ไม่ถึง 100 ปี ตามที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าโครงการนี้ไม่มีความชัดเจนว่าจะลงทุนอย่างไร และจะดำเนินการขาดทุนไม่สามารถหารายได้มาชำระคืนหนี้ได้
• "วิชิต สุรพงษ์ชัย" ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ยอมรับว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ บางตัวราคาหุ้นขณะนี้มีอาการฟองสบู่หากราคาหุ้นขึ้นไป 40 เท่าในวันซื้อขายธรรมดาก็เป็นเรื่องน่าคิดเมื่อใดก็ตามที่ราคาปรับขึ้นระดับก็ต้องระวังตัวธนาคารก็ระมัดระวังเรื่องเหล่านี้อยู่แล้วและไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องหุ้นเพราะเป็นหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์

*หุ้นเด่นวันนี้

• MSC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 7.45 บาท ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาเพียง 10% YTD เทียบกับกลุ่มสื่อสารโดยเฉลี่ยที่ปรับขึ้น 16% YTD ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ 6.3 เท่าของกระแสเงินสดอิสระปี 2556 (FCF) และ P/E ปี 2556 ที่ 9 เท่าเท่านั้น สวนทางกับแนวโน้มของกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีข้างหน้าที่ประเมินว่าจะเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี (CAGR 2556-2558) และประเมินว่าในปีนี้จะจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.38 บาท (Dividend Yield 6.5%)
• SPCG (เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 39 บาท ล่าสุดบริษัทจะนำ 7 โครงการโซล่าร์ฟาร์ม(50MW) เข้าร่วมโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการรับมือปัญหาวิกฤตพลังงานไฟฟ้าช่วง 4-15 เม.ย.2556 ขณะที่ในปี 2556 จะเป็นจะปีที่ดีมาก จากการที่โครงการโซล่าร์ฟาร์มที่ 10-16 (52 MW) ได้เริ่ม COD ตั้งแต่ ม.ค.2556 และโครงการโซล่าร์ฟาร์มอีก 6 แห่ง (37.3 MW) จะเริ่ม CDO ได้ในไตรมาสที่ 2 Consensus ประเมินกำไรสุทธิในปี 2566 ไว้ที่ 1.37 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 39 ล้านบาทในปี 2555 และประเมินมูลค่าเหมาะสมไว้ที่ 39.00 บาท
• TRUE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 10.10 บาท คาดราคาหุ้น TRUE มีแนวโน้มตอบรับเชิงบวก หากการประชุม กทค.ในวันนี้ มีมติออกมาเป็นบวกต่อกรณีบริษัท BFKT ทำสัญญาเช่าโครงข่ายกับ กสท. เพื่อให้บริการ 3G บนคลื่น 850 MHz ของ Truemove H และบริษัทมีแนวโน้มเข้าสู่จุดคุ้มทุนได้ใน 2H56 นอกจากนั้น การอ่อนค่าลงของเงินเยนถึง 10% Ytd จะส่งผลให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 300 ล้านบาท รวมทั้งมี Upside Risk ต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท หากสามารถจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ จะส่งผลให้บริษัทสามารถระดมทุนได้จำนวนมาก
• SVOA(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 3.60 บาท ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ในเดือน เม.ย. จากการประมูลโครงการ Tablet ของรัฐบาลจำนวน 1.8 ล้านเครื่อง โดยเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่ SVOA จะได้งานบางส่วนจากการประมูลดังกล่าว และ เป็น 1 ในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท พร้อมคาดว่ากำไรสุทธิปี 2556 จะเติบโตสูงถึง 99% yoy เป็น 157 ล้านบาท และต่อเนื่อง +29.4% yoy ในปี 2557 และราคาหุ้นยังมี Valuation ที่ค่อนข้างถูก
• TMT(ดีบีเอส)"ซื้อ"เป้า 15.50 บาท คาดขายรูปตัวเงิน 1Q56 จะสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 3.15 พันล้านบาท (+25%YoY และ 15%QoQ) สำหรับทั้งปี 56 คาดว่ายอดขายจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง 20% เพราะมีปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้เหล็กที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามการลงทุนที่ขยายตัวดี รวมทั้งการเก็บสต็อกของดีลเลอร์มากขึ้นในช่วงที่ประเมินว่าราคาเหล็กจะเป็นขาขึ้น บริษัทมีกำลังการผลิตเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตของยอดขายไปในอีก 2 ปีข้างหน้า