นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี ประธานกรรมการ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ได้ข้อสรุปให้บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) ผู้ให้บริการระบบส่งน้ำมันในปัจจุบัน (บริษัทย่อยของบมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS)) เป็นผู้ดำเนินการลงทุน และให้บริการระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานผ่านท่อภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสำหรับรองรับการขยายท่าอากาศยานระยะที่ 2 เนื่องจากบริษัทเสนอประโยชน์สูงสุดด้วยการปรับเพิ่มอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่ให้กับ ทอท.เป็น 8% จากเดิม 2% และเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นบริษัทในส่วนของ ทอท.เป็น 25% จากเดิม 10% โดยจะมีผลทันทีในวันที่ได้ลงนามสัญญากับ ทอท. เบื้องต้นบริษัทจะใช้เงินลงทุนในการก่อสร้างวางท่อน้ำมันจำนวน 700 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสร้างได้แล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2557
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ได้สั่งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกลับไปทบทวนวิธีการจัดหาแหล่งเงินทุนในการก่อสร้าง เป็นวงเงินประมาณ 6 หมื่นล้านบาทใหม่ จากเดิมที่จะใช้วิธีกู้เพียงอย่างเดียว โดยมีแนวคิดว่าควรมีการจัดตั้งเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐานด้วยได้หรือไม่
เนื่องจากธุรกิจของ ทอท.มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่แน่นอนและต่อเนื่อง เห็นได้จากปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่เพิ่มขึ้นจนเต็มขีดความสามารถในการรองรับ มั่นใจว่าเมื่อ ทอท.ทำโรดโชว์จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เบื้องต้นยังไม่สรุปว่าจะระดมทุนทั้งหมด 6 หมื่นล้านบาทหรือไม่