ยกเว้นตลาดหุ้นในเกาหลีใต้ที่เป็นลบ จากแต่ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งการรีบาวน์ของตลาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากยังมีความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและการเมืองในประเทศ นอกจากนี้ยังมีต่างชาติเทขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีหุ้นไทยขึ้นได้ไม่มาก
พร้อมให้แนวต้าน 1,500-1,515 จุด แนวรับ 1,480 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(8 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,613.48 จุด เพิ่มขึ้น 48.23 จุด(+0.33%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,563.07 จุด เพิ่มขึ้น 9.79 จุด(+0.63%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,222.25 จุด เพิ่มขึ้น 18.39 จุด(+0.57%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 116.54 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.88 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 82.19 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 13.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.56 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.55 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.70 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 8.80 จุด
ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(5 เม.ย.)ที่ 1,489.53 จุด ลดลง 38.93 จุด(-2.55%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,906.28 ล้านบาท เมื่อ 5 เม.ย.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(8 เม.ย.)ที่ 93.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.66 ดอลลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(8 เม.ย.)ที่ 5.4 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.14/16 แนวโน้มแข็งค่า มองกรอบวันนี้ 29.10-29.50
- แบงก์ชาติถกสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ หลังพบขยายตัวแรง โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ ผู้ประกอบการแห่ระดมทุนหวังผุดโครงการใหม่เพิ่ม ห่วงความต้องการซื้อมีไม่พอ ขณะยอดเปิดขายคอนโดใหม่เดือนก.พ.พุ่งกระฉูด ด้านสมาคมตราสารหนี้ เผยกลุ่มอสังหาฯ แห่ออกหุ้นกู้ไตรมาสแรก 1.2 หมื่นล้าน ขยายตัว 38% สวนทางภาพรวมตลาดที่ซบเซา ยอดขอออกหุ้นกู้สะสมกว่า 2 แสนล้าน
- "3 ค่ายมือถือ"เตรียมเปิดศึกแพ็คเกจ 3จี ดึงลูกค้าครึ่งปีหลัง โหมติดตั้งสถานีฐาน ประเมินคนแห่ใช้ 3 จี เชิงพาณิชย์ปีแรกทะลุ 23 ล้านราย "เอไอเอส" ชิงเปิดบริการรายแรก ผนึกพันธมิตรบีทีเอสประเดิมให้ลูกค้าใช้มือถือแตะแทนบัตรรถไฟฟ้า
- ก.ล.ต.เสนอใช้มาตรการทางแพ่งจับนักปั่นหุ้นทำผิดห้ามเข้าตลาดหุ้น 5 ปี, นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่าสำนักงานได้เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์พ.ศ. 2535 ให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว โดยมีการเพิ่มมาตรการทางแพ่งมาใช้กับการกระทำที่ไม่เป็นธรรมในตลาดหุ้นเช่น การปั่นหุ้น การเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จ และการใช้ข้อมูลภายในจากปัจจุบันที่จะพิจารณาความผิดทางอาญาเท่านั้น
- นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า โครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทางที่ระบุใน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทคงจะไม่สามารถเริ่มการก่อสร้างได้เร็ว และอาจจะลงมือก่อสร้างไม่ทันในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี เนื่องจากต้องดำเนินการตามกระบวนการ และขั้นตอนที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. อย่างถูกต้อง
- แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- ปิดฉากไตรมาสแรกหุ้นกลุ่มตระกูลการเมืองพุ่งแรง กลุ่มเครือญาติ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ทะยานถ้วนหน้า เอ็มลิ้งค์กระฉูด 168.16% ขณะที่หุ้นกลุ่ม "ชาญวีรกูล-มาลีนนท์" ร่วมวงเก็งกำไร และโบรกเกอร์เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นสื่อสารเหตุราคาถูกกดดันจากประเด็นทางเมืองก่อนหน้า
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดสินเชื่อบุคคลปีนี้ ยังเติบโตได้ในระดับ 9-13% แต่จะเน้นการขยายตัวอย่างระมัดระวัง มุ่งเสริมสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่มควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด เชื่อคุมหนี้เสียได้
- รายงานจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) ว่า นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2555 ที่ผ่านมาจนถึงสิ้นสุดเดือน มี.ค. 2556 ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯรับโอนหนี้มาจากรัฐบาล เพื่อรับผิดชอบการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเอง ตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงการบริหารหนี้ พ.ศ. 2555 นั้น ได้จ่ายเงินชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยไปแล้วทั้งสิ้น 3.09 หมื่นล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTGC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 92 บาท ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการฟื้นตัวค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาในกลุ่ม Olefins, ได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิตปิโตรเคมีในกลุ่ม, เบื้องต้นบริษัทแม่(PTT)ให้ร่วมดำเนินการ 4 โครงการกับ IRPC ลดความซ้ำซ้อนในการผลิตก่อนพิจารณาแผนควบรวมกิจการ ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างถูก ซื้อขายที่ PER เพียง 9 เท่า
- CK(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 34.50 บาท คาดหวังการ Rebound ราคาหุ้นในระยะสั้นจากพื้นฐานแกร่ง-งานในมือสูงถึง 1.18 แสนล้านบาท และถ้านำความเป็นไปได้โครงการรถไฟรางคู่-โครงการป้องกันน้ำท่วมมารวมด้วยประเมินได้เห็นงานในมือทั้งปีเพิ่มขึ้นอีก 3-4 หมื่นล้านบาท,บันทึกกำไรจาก TTW ราว 5.6 พันล้านบาทใน Q1/56 และการนำ CKP เข้าตลาดใน พ.ค.56 ช่วยสร้างความน่าสนใจ
- TRUE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 10.10 บาท คาดราคาหุ้นมีแนวโน้มตอบรับเชิงบวกหลังกทค.มีมติ 4 ต่อ 1 ว่าสัญญาระหว่าง BFKT กับ กสท.เพื่อให้บริการ 3G บนคลื่น 850 MHz ไม่ขัดต่อกฎหมายโทรคมนาคม และบริษัทมีแนวโน้มเข้าสู่จุดคุ้มทุนได้ใน 2H56 นอกจากนั้น การอ่อนค่าลงของเงินเยนถึง 10% Ytd จะส่งผลให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 300 ล้านบาทจากหนี้สกุลเยน รวมทั้งมี Upside Risk ต่อปัจจัยพื้นฐานหากตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้จะส่งผลให้ระดมทุนได้สูง