ทั้งนี้ เป็นการขยายสาขาที่มากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับการขยายงานนับตั้งแต่ก่อตั้งมากว่า 40 ปี ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการปรับสัดส่วนการให้สินเชื่อระหว่างกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ให้สะท้อนพื้นฐานของตลาดต่างจังหวัดที่มีการขยายตัวสูง
สำหรับสัดส่วนการใช้รถจักรยานยนต์อยู่ที่ 80% ส่วนที่เหลือ 20% เป็นสัดส่วนของตลาดรถจักรยานยนต์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยขณะนี้ TK มีสัดส่วนการให้สินเชื่อต่างจังหวัดเกือบ 70%
“การเร่งขยายสาขาครั้งนี้ เพื่อให้สัดส่วนระหว่างกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็นไปตามสัดส่วนของการขายรถจักรยานยนต์ในประเทศ แต่ไม่ได้หมายถึงตลาดกรุงเทพฯ ของ TK จะต้องหดตัวลง แต่เราจะเร่งการเติบโตของตลาดต่างจังหวัดให้มากกว่ากรุงเทพฯ" น.ส.ปฐมา กล่าว
นอกจากนี้ TK ได้เปิดรับสมัครพนักงานเพิ่มเติมในปีนี้อีก 250 อัตรา ซึ่งจะทำให้จำนวนพนักงานของ TK เพิ่มขึ้นมาเป็นเกือบ 2,000 คนในสิ้นปีนี้
ด้านนายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้จะทำลายสถิติเดิม มาอยู่ที่ 2.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีอยู่ 2.13 ล้านคัน แต่ในส่วนของ TK ได้ตั้งเป้าการเติบโตของมูลค่าสินเชื่อไว้ที่ 10% ในปีนี้ โดย ณ สิ้นปี 2555 TK มีลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิรวม 8,647.9 ล้านบาท
“TK เองได้เร่งขยายสาขาต่างจังหวัดเพิ่มอย่างมากในปีนี้ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตลาดต่างจังหวัดซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดกรุงเทพฯ ใน 10 ปีที่ผ่านมา" นายประพลกล่าว
สำหรับการเร่งขยายสาขาครั้งนี้ นอกจากจะรองรับแผนการเพิ่มสัดส่วนของตลาดต่างจังหวัดแล้ว TK ยังมีความเชื่อมั่นว่ากำลังซื้อในต่างจังหวัดจะดีกว่าตลาดกรุงเทพฯ ทั้งนี้เป็นผลจากนโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่ได้กระตุ้นผ่านโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด การปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ และในอนาคตอันใกล้ รัฐบาลกำลังเดินหน้าโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศหรือ Thailand 2020 มูลค่ากว่า 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลต่อกำลังซื้อของคนไทยทั่วประเทศ และ GDP ขยายตัวต่อเนื่องไปอีกหลายปีติดต่อกัน
อีกทั้ง ยังเป็นการเร่งสร้างบุคลากรเพื่อรองรับแผนการขยายงานไปยังต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณา 2 — 3 ประเทศในอาเซียน ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้ น่าจะได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1 ประเทศ