"โดยสินทรัพย์ในกองทุน บางส่วนจะลงทุนเป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศและในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่ลงทุนได้ขึ้นไป" นายธีรพันธุ์ กล่าว
สำหรับการลงทุน 3 เดือน เป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากกองก่อนหน้านี้ FAM FIPR3M2 เป็นกองทุน specific fund โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และ/หรือ เงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD หรือ CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร CIMB, Niaga, Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ธนาคาร CBQ, Qatar
รวมทั้งตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991), ตราสารหนี้ บมจ.บัตรกรุงไทย, ตราสารหนี้ บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง, หรือ ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ ขึ้นไป ตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
นายธีรพันธุ์ กล่าวอีกว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75 % แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าจนหลุดกรอบ 29 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐแล้วก็ตาม เพราะการประชุมที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายการเงินไม่ได้นำปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่ามาพิจารณา
"แม้โอกาสลดดอกเบี้ยจะต่ำ แต่โอกาสที่ดอกเบี้ยจะขึ้นนั้นก็ต่ำเช่นกันเพราะการขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการดึงเงินทุนต่างประเทศให้ไหลเข้ามา และกดดันให้บาทแข็งค่ามากกว่าปัจจุบัน"นายธีรพันธุ์ กล่าว