ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 138.19 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 14,618.59 จุด ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 22.56 จุด หรือ 1.43% ปิดที่ 1,552.01 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 59.96 จุด หรือ 1.84% ปิดที่ 3,204.67 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากบริษัทหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง รวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา ที่เปิดเผยว่ารายได้สุทธิในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 2.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 20 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเครราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่รายได้โดยรวมลดลง 8.4% มาอยู่ที่ 2.385 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 4.72%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยหุ้นแอปเปิลปรับตัวลง 5.50% ซึ่งเป็นหุ้นที่ร่วงลงมากที่สุดในดัชนี Nasdaq ขณะที่หุ้นอินเทล และหุ้นยาฮู ร่วงลงเช่นกัน หลังจากยาฮูและอินเทลเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด
ตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงสัญญาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2556 ลงเหลือ 3.3% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 3.5%
ทั้งนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.9% และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ดิ่งลง 3.2%
ส่วนหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แรน ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ระดับโลก ดิ่งลง 4.3% หลังจากราคาทองแดงร่วงลงหนักสุดในรอบ 18 เดือน
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 เม.ย.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 350,000 ราย จากสัปดาก์ก่อนหน้าที่ระดับ 346,000 ราย
จากนั้นในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ.