ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าภายในสิ้นปี 56 จะมียอดผู้โดยสารกว่า 10 ล้านคนตามเป้าหมาย ซึ่งเพิ่มจาก 8.3 ล้านคนในปี 55 และ 6.9 ล้านคนในปี 54
"การดำเนินงานของไทยแอร์เอเชียเติบโตต่อเนื่องอย่างดี เห็นภาพชัดหลังจากย้ายการให้บริการมาที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเฉพาะในตลาดเป้าหมายของปี 56 ที่สายการบินวางไว้ คือตลาดจีน อินโดจีน และเส้นทางภายในประเทศ โดยปัจจุบันแอร์เอเชียบินครอบคลุมสู่ประเทศจีนมากที่สุดกับ 7 เมือง 9 เส้นทาง และพร้อมเพิ่มความถี่บินต่อเนื่อง จากกรุงเทพฯ สู่ฮ่องกงเป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน(เริ่มบิน 30 เม.ย.) สู่อู่ฮั่น เป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน(เริ่มบิน 3 มิ.ย.) สู่ฉงชิ่ง 2 เที่ยวบินต่อวัน (เริ่มขาย 23 เม.ย.เริ่มบิน 1 ก.ค.)"นายทัศพล กล่าว
จากสถิตินักท่องเที่ยวจีนเข้าออกประเทศไทย พบว่าปี 55 แอร์เอเชียขนส่งผู้โดยสารจีนกว่า 1.1 ล้านคน เมื่อพิจารณาจากแผนการขยายการเติบโตทั้งการรับเครื่องบินแอร์บัสใหม่ประจำการฝูงบิน และขยายเส้นทางบินใหม่ต่อเนื่อง จึงตั้งเป้ายอดผู้โดยสารจีนเข้าสู่ไทยจะสูงถึง 5 ล้านคน ภายใน 5 ปีข้างหน้า และมีจุดบินใหม่เพิ่มประมาณ 10 เมือง
โดยเฉพาะจากข้อมูลนักท่องเที่ยวปัจจุบันพบว่าเทรนด์ผู้โดยสารจีนเป็นกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น และมีพฤติกรรมใช้จ่ายสูง ทำให้ทุกภาคธุรกิจต้องเตรียมความพร้อมอย่างดีสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ ระบบสัญลักษณ์สื่อสาร ป้ายต่างๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และภาคโรงแรมที่จะเติบโตอย่างมาก
นายทัศพล กล่าวว่า เหตุที่ผู้โดยสารจีนเติบโตมากเนื่องจากรับกระแสหนังเรื่อง Lost in Thailand และประเทศไทยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจีนต้องการมาเที่ยวมากที่สุด และคาดว่ากระแสจากหนังเรื่องนี้จะมี momentum ไปจนถึงสิ้นปีนี้ และนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่จะเดินทาง 2-3 จุดบินในไทย ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ และตรัง รวมทั้งมีกำลังซื้อมาก กล้าซื้อ กล้าช้อป และซื้อของฝากค่อนมาก
ทั้งนี้ คาดว่าสิ้นปีนี้สัดส่วนผู้โดยสารจีนจะเพิ่มเป็น 18% จากผู้โดยสารทั้งหมดที่คาดไว้จำนวน 10 ล้านคน จากสิ้นปีก่อนที่มีสัดส่วน 15-16% ที่เป็นผู้โดยสารจีน หรือคิดเป็นจำนวน 1.1 ล้านคน ของผู้โดยสารรวมปีก่อน 8.3 ล้านคน
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดจุดบินใหม่ในจีน 2 จุดบินกลางปีนี้ จากปัจจุบันในจีนมีจุดบิน 7 เมือง ได้แก่ มาเก๊า ฮ่องกง อู่ฮั่น ฉงชิ่ง ซีอาน กวางโจว และ เซินเจิน ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการศึกษาจุดบินใหม่ในจีน อาทิ หนานหนิง และคุนหมิง ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมาก เกิน 50 ล้านคนและใช้เวลาบินไม่เกิน 3 ชั่วโมง
"สิ่งที่ทำต่อไปจะเพิ่มความถี่ทุกเส้นทางที่ให้บริการ...เราให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวจีนที่ต้องการมาเที่ยวไทย รองลงมาเป็น เส้นทางอินโดจีน เช่น เวียดนาม พม่า"นายทัศพล กล่าว
สำหรับไตรมาส 2/56 และ ไตรมาส 3/56 คาดว่าจำนวนผู้โดยสารทรงตัว และจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 4/56 ทั้งนี้คาดว่าในไตรมาส 2/56 จะมี Cabin Factor 80% และคงเป้า ปีนี้มี Cabin Factor เฉลี่ย 82% แต่หากไตรมาส 2/56 ทำได้ดีกว่าเป้า ก็อาจจะปรับเป้าทั้งปี
ปัจจุบัน สายการบินไทยแอร์เอเชียมีฝูงบินจำนวน 28 ลำ และปลายปีนี้จะเพิ่ม 34 ลำ
นายทัศพล คาดว่า สิ้นปีนี้บริษัทจะมีส่วนแบ่งการตลาดเส้นทางบินในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 48-50% จากที่ขณะนี้อยู่ที่ 40% ต้นๆ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาด 50% ในปีหน้า ทั้งนี้เป็นผลจากผู้โดยสารในประเทศ และจีน เข้ามาสนับสนุน
ขณะที่ราคาน้ำมันอากาศยาน(Jet) ขณะนี้ราคาอยู่ที่ 123-124 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อ่อนตัวลงเล็กน้อยแต่ไม่ได้ปรับลงเหมือนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทั้งนี้คาดราคาน้ำมัน Jet เฉลี่ย 125 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีก่อนเฉลี่ย 123 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนการแข็งค่าของเงินบาทช่วยทำให้เกิดผลดีต่อบริษัทได้บ้างในส่วนที่มีค่าใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ