สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A LB196A และ LB21DA (รุ่นอายุ 4.2 ปี 6.2 ปี และ 8.7 ปีตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 31,779 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท บางกอก มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส จำกัด (BMUL163A) มูลค่า 301 ล้านบาท
2. บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)(MINT228A) มูลค่า 249 ล้านบาท
3. บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS15NA) มูลค่า 112 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 662 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ขายสุทธิ 3,363 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 5,068 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 3,889 ล้านบาท
Yield Curve ปรับตัวลดลงในตราสารอายุ 1 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 - 5 bps. โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้า สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อในพันธบัตรอายุ 3 — 5 ปี โดยมียอดซื้อสุทธิเท่ากับ 3,889 ล้านบาท